“พี่ง้อคนด้วยคำพูดไม่เป็นหรอกนะ”
“...”
“พี่ง้อเป็นแค่ภาษากาย”
“พ.. พี่จงอิน”
เรียกเสียงหลงเมื่อคนที่นอนข้างๆ
พลิกตัวร่างบางให้นอนหงาย แล้วใช้ตัวเองขึ้นคร่อม
โดยที่สองแขนยังคงหยัดไว้ที่พื้นเตียง
ไม่ให้ร่างทั้งร่างทับคนที่นอนอยู่ภายใต้อาณัติ
ตึก.. ตึก.. ตึก..
“พี่จงอิน! ลงไปนะ”
“อืม.. ลงก็ได้” แล้วก็ทิ้งตัวลงไปทาบทับจนแนบสนิท
ไม่ใช่ลงแบบนี้!
หมายถึงให้ลงไปจากตัวต่างหากเล่า! ฮืออ...
แต่คนตัวเล็กก็มีสิทธิ์บ่นได้แค่ในใจ
เมื่ออีกฝ่ายใช้ริมฝีปากบดเบียดลงมาอีกครั้ง อีกครั้ง แล้วก็อีกครั้ง
“อื้อ...” เสียงหวานครางในลำคอเมื่อลมหายใจเริ่มหมด
ทำให้จงอินต้องผละริมฝีปากออกไป
“คยองซูยังไม่หายงอนพี่จงอินเลย”
“ก็ง้ออยู่นี่ไง..” มือหนาเริ่มปลดกระดุมชุดนอนของคยองซูออกไปทีละเม็ด พยายามชวนคุยไปเรื่อยๆ
เพื่อไม่ให้คนตัวเล็กรู้ตัวแล้วขัดขืนเขา
ก็คนมันคิดถึง..
อยากกอดจะแย่อยู่แล้ว
“ที่ทำอยู่เขาเรียกว่าง้อหรอฮะ
?”
“บอกไปแล้วนะว่าไม่ชอบง้อด้วยคำพูด”
“งั้นคยองซูหายงอนก็ได้”
“ก็ดี.. งั้นถือสะว่าพี่ขอเป็นค่าตอบแทนที่มาง้อก็แล้วกันนะ” แล้วเสื้อนอนก็ถูกแหวกออกจากกันโดยที่คยองซูก็ไม่ทันได้ตั้งตัว..
“พี่จงอิน!”
“ขอนะ...”
“แต่ว่า..” ไม่ทันได้พูดจนจบประโยค
จงอินก็ใช้นิ้วของตนไปแตะที่ปากของคยองซูไว้
“ฟังพี่นะ” ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบใกล้กับใบหูที่ขึ้นสีแดงจัด..
ไม่ใช่แค่หูอย่างเดียวหรอก ทั้งตัวเลยล่ะ
“ตลอดเวลาที่พี่ไม่เจอคยองซู..
พี่คิดถึงคยองซูมาก”
“อ.. ฮะ” ลมหายใจร้อนๆ
ที่ออกมาจากริมฝีปากกระทบเข้าเต็มๆ ทำให้คนตัวเล็กต้องหดคอลง..
โอ๊ย! จะตายแล้ว
“คิดถึง...จนแทบจะเป็นบ้า..
ทั้งอยากกอดอยากหอมอยากจูบ.. แต่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง”
“อ๊ะ! พ.. พี่จงอิน...” เสียงหวานหลุดร้องออกมาเมื่อริมฝีปากหยักเลื่อนต่ำไปที่ซอกคอขาว
ใช้ดูดเม้มแรงๆ จนขึ้นรอยสีแดงเข้ม
ตีตราให้รู้ว่าคนตัวเล็กมีเจ้าของแล้ว...
“บางทีโรคบ้าๆ แบบนี้มันอาจจะหายนะ”
“ห.. หายยังไงล่ะฮะ ?”
“ถ้าคยองซูเป็นของพี่น่ะ”
น..
นี่มันตรรกะอะไรกัน คยองซูไม่เคยได้ยินเลยสักครั้งตั้งแต่เกิดมา!
ริมฝีปากที่เผยอขึ้นเพื่อเตรียมจะเถียง
กลับกลายเป็นการเปิดทางให้จงอินแทรกลิ้นร้อนเข้ามาฉกฉวยความหวานภายในโพลงปากไปซะงั้น
“อื้อ..” เสียงครางแผ่วในลำคอยิ่งทำให้จงอินควบคุมตัวเองไม่อยู่ มือหนาเลื่อนต่ำไปที่ยอดอกสีหวาน
แล้วใช้นิ้วนวดคลึงอยู่สักพักก่อนจะเลื่อนริมฝีปากต่ำลงไปที่แผ่นอกบาง
“คยองซู.. ไหวมั้ย ?”
“ถ.. ถ้าบอกไม่ไหว
แล้วพี่จงอินจะหยุดหรอฮะ ?”
“ไม่หรอก พี่ถามเฉยๆ”
โถ..
นี่ดีนะว่าเป็นพี่จงอิน ถ้าเป็นคนอื่นนี่จะถีบให้ล่วง!
ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นน้อยๆ
เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กแอบเบะปากใส่เขา
หึ.. มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หยุดงั้นหรอคยองซู?
“อะ..” ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อลิ้นร้อนสัมผัสที่เม็ดทับทิมสีสวย
ก่อนจะขบเม้มจนรู้สึกเจ็บ.. แต่ก็รู้สึกดีด้วยเหมือนกัน
ดวงตาคมซ้อนขึ้นมองคนที่อยู่ภายใต้อาณัติ..
ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงจัดกำลังเม้มริมฝีปากเพื่อเก็บเสียงน่าอายไว้ไม่ให้หลุดออกมา
น่ารัก..
ไม่ว่าคยองซูจะมีสีหน้าแบบไหนก็น่ารักตลอดเลยสำหรับคิมจงอิน
กางเกงชุดนอนถูกถอดออกไปอย่างง่ายดายแม้ว่ามือเล็กๆ
นั่นพยายามจะปัดป้อง
แต่มันก็ไม่ได้สร้างความลำบากหรือรำคาญใจอะไรให้จงอินเลยแม้แต่น้อย
หนำซ้ำการกระทำแบบนั้นก็ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เขาต้องการร่างบางนี่มากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
“พ.. พี่จงอิน...
คยองซู...”
“จำได้มั้ย
ครั้งที่แล้วสอนไว้ว่ายังไง ?”
“จ.. จำได้ฮะ”
“งั้นก็ทำสะสิ..”
ข้อมือเล็กถูกฉวยให้มาวางไว้ที่ไหล่กว้างเปลือยเปล่า
ซึ่งไม่รู้ว่าเสื้อเชิ้ตตัวสีดำมันถอดออกไปตั้งแต่เมื่อไร
“ไม่ต้องกลัวพี่จะเจ็บ...
อย่างน้อยมันก็ดีกว่าการที่คยองซูจะมาเป็นลมในเวลาแบบนี้”
ขืนมาเป็นลมตอนนี้ล่ะก็
คนที่จะตายคงไม่ใช่คยองซูหรอก.. จริงๆ
ริมฝีปากเลื่อนไล้ลงมาเรื่อยๆ
พยายามค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แม้ในใจอยากจะกลืนกินคนตัวเล็กมากขนาดไหนก็ตาม..
แต่ครั้งแรกของคยองซู ถ้าแรงเกินไปคนตัวเล็กก็อาจจะกลัวได้...
แก่นกายสีหวานที่เขาเคยได้เห็นมาก่อนหน้านี้มันกำลังแข็งขืนตามอารมณ์ที่คยองซูมี
จงอินยิ้มขึ้นที่มุมปากเมื่อขาเรียวพยายามหนีบเข้าหากันเพราะความอาย
แต่ที่สุดก็ทำไม่ได้เมื่อร่างหนายังคงแทรกกลางอยู่ตรงนั้น
จงอินใช้แขนทั้งสองข้างซ้อนขาของคยองซูให้แยกออกจากกันแล้วตั้งชันขึ้น แต่แล้วความรู้สึกเจ็บแปลบที่แผ่นหลังกว้างก็ทำให้จงอินต้องละสายตาออกจากของความที่ชูชันอยู่ตรงหน้า
“ย..
อย่าจ้องแบบนั้นฮะ”
แล้วคำขอนั้นจงอินก็ทำให้ตามที่ต้องการโดยการลุกออกไปยืนปลายเตียงแล้วถอดกางเกงของเขาออกไป
คยองซูไม่ได้เร่งให้พี่จงอินทำแบบนั้นสะหน่อย
อย่าเข้าใจผิดสิ!
ร่างบางแทบจะสะดุ้งเมื่อจู่ๆ
อีกคนก็ทาบทับร่างลงมาแล้วบดเบียดริมฝีปากลงมา
ลิ้นร้อนไล้เลียกลีบปากอย่างเอาใจ
แล้วเมื่อรู้สึกว่าคนข้างล่างพึงพอใจแล้วก็แทรกเข้าไปลิ้มความหวาน
ถึงแม้ว่าคยองซูจะเคยโดนขโมยจูบมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่คนตัวเล็กจะทำเป็นสักที
ผลสุดท้ายจึงต้องปล่อยให้จงอินเป็นคนสอนเหมือนอย่างทุกที
จงอินลิ้มรสจนพอใจจึงได้ผละริมฝีปากออกไป
แผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงยามที่กอบโกยอากาศที่ขาดหายไปนาน
“ทำไมถึงได้หวานขนาดนี้นะคยองซู...”
“ถ้าอยากรู้ก็ต้องถามพ่อกับแม่คยองซูแล้วล่ะฮะ”
“อย่าพึ่งเลย
พี่ยังอยากมีชีวิตอยู่นะ”
ทั้งสองคนสบตากันจากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา มือเรียวยื่นขึ้นมาประคองใบหน้าของจงอินเอาไว้
“พี่จงอิน..
รักคยองซูมั้ย ?”
“รักครับ”
“หวังว่าพี่จงอินจะไม่ได้พูดหยอดเพื่อหลอกฟันคยองซูหรอกนะ
คิก...”
“ถ้าจะหลอกล่ะก็
พี่ทำไปตั้งแต่ครั้งก่อนแล้วล่ะไอ้ตัวแสบ”
มือหนาบิดจมูกเล็กเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“งื้อ...”
“รู้ใช่มั้ยว่าถ้าเกร็งแล้วจะเป็นยังไง
?”
“ล..
แล้วต้องทำยังไงใม่ให้เกร็งล่ะฮะ”
นั่นสินะ..
จะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติได้ไงกันล่ะ ในเมื่อครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของคยองซู...
จงอินไม่ได้ตอบคำถามเพื่อคลายความสงสัยให้กับคนตัวเล็กในอ้อมกอด
ใบหน้าคมคายยื่นเข้าไปใกล้ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากลงไปอีกครั้ง
มือเล็กเอื้อมมาโอบแผ่นหลังกว้าง
หลับตาลงแล้วเอียงใบหน้าให้ได้องศายามเมื่อใบหน้าคมคายเลื่อนต่ำไปที่ซอกคอขาว
สูดดมกลิ่นกายหอมแล้วขบเม้มจนขึ้นรอยแดงไปทั่ว หวานไปทั้งตัวจริงๆ นะเด็กคนนี้...
“อ๊ะ! พ.. พี่จงอิน” สะดุ้งสุดตัวเมื่อมือหนาสัมผัสเข้ากับแกนกายสีหวานก่อนจะเลื่อนมือขึ้นลงในจังหวะที่เนิบนาบเพื่อให้คยองซูได้ค่อยๆ
ปรับตัว แล้วมีความสุขร่วมกันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
เขาจะไม่ยอมให้ตัวเองมีความสุขคนเดียว
แล้วปล่อยให้คยองซูต้องเป็นฝ่ายทุกข์แน่นอน
“อะ..อื้อ...” ยิ่งพยายามเม้มปากเก็บเสียงที่น่าอายมากขึ้นเท่าไร
หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นถี่รัวมากขึ้นเท่านั้น... ไม่ได้การ.. ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป
มีหวังคยองซูคงได้หลับก่อนแน่ล่ะ!
“ไม่ต้องอายหรอก..
เสียงคยองซูน่ะ พี่ชอบฟังจะตายไป”
พยายามพูดเกลี่ยกล่อมไม่ให้คนตัวเล็กอายแล้วเหมือนกับว่าจะได้ผล
เมื่อปากหยักเผยอออกมากอบโกยอากาศแล้วเริ่มครางเสียงหวานดังขึ้นเมื่อมือกร้านเร่งจังหวะจากเนิ่บนาบให้กลายเป็นเร็วขึ้น
“อะ..อะ..”
ร่างบางกระตุกอยู่สองสามครั้ง
จากนั้นน้ำสีขาวบริสุทธิ์ก็ถูกปลดปล่อยออกมาจนเลอะมือใหญ่ จงอินยกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของคยองซู
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่..
มากกว่านี้ก็ไหวมั้ง”
“ฮ.. ฮื้ออ
!” แผ่นอกบางยกขึ้นเมื่อมือหนาเลื่อนไปซ้อนแล้วประทับริมฝีปากลงบนยอดอกสีทับทิม
ส่วนนิ้วยาวที่เปื้อนคราบน้ำรักอยู่แล้วก็ถูกนำไปป้ายที่ช่องทางสีชมพูเพื่อใช้เป็นตัวหล่อลื่นแทนเจล
ก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกินเลยไปมากขนาดนี้
แต่พอดีว่าคนอย่างคิมจงอินดันง้อคนด้วยคำพูดไม่เป็น...
คยองซูเบ้หน้าเมื่อรู้สึกว่าก้านนิ้วยาวค่อยๆ
แทรกลึกเข้ามา
ความเจ็บแสบแล่นขึ้นที่โสตรับความรู้สึกจนหยาดน้ำตาใสเริ่มคลอขึ้น
“จ.. เจ็บ..”
“ไม่เกร็งนะ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยบอก พยายามขยับนิ้วที่อยู่ภายในเพื่อเปิดทางให้ช่องทางขยายออกแล้วเตรียมรับกับของจริงที่ใหญ่กว่านี้หลายเท่า
แต่ดูเหมือนคยองซูจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไรนักเมื่อช่องทางยังคงตอดรัดจนเขาขยับนิ้วเข้าออกด้วยความยากลำบาก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าขยับไม่ได้..
“อ๊ะ.. พ.. พี่จงอิน” เมื่อก้านนิ้วยาวเริ่มขยับเร็วขึ้น
เสียงครางหวานก็ยิ่งหลุดออกมาให้ได้ยินดังกว่าคราแรกๆ
ไม่ว่าคยองซูจะมีสีหน้าแบบไหนก็น่ารักไปสะหมด
ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำที่มองมาทางเขาอย่างอ้อนวอนกำลังทำให้จงอินขาดสติแล้วนึกอยากจะแทรกกายใหญ่โตเข้าไปภายในช่องทางสีหวานที่กำลังตอดรัดนิ้วของเขาอย่างเชื้อเชิญ
“พี่จงอิน..”
“ไม่ไหวแล้วหรอ ?”
“ป.. เปล่าฮะ” พูดไปก็หน้าแดงไป..
จงอินถอนนิ้วออกมา
ก่อนจะใช้มือรูดรั้งแกนกายของตัวเองอยู่สักพักเพื่อให้มันแข็งขืนพอที่จะเข้าไปสำรวจตัวของคยองซูได้..
“ขอทวงค่าง้อเยอะๆ
หน่อยนะครับ”
“อ.. อ๊า! พ.. พี่จงอิน.. เจ็บ.. ฮึก!”
แค่ส่วนหัวเข้าไป
เสียงร้องก็ดังขึ้นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่รินไหลออกมาเพราะความเจ็บ..
จงอินกัดฟันกรอดเมื่อส่วนนั้นถูกบีบแน่นจนรู้สึกปวดไปหมด แต่ถ้าจะให้เขาถอนตัวออกมาตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วเหมือนกัน
แผ่นหลังหนาเปลือยเปล่าถูกเล็บยาวจิกเข้าจนรู้สึกเจ็บแสบ ส่วนสาเหตุที่เขาต้องยอมทนก็เพื่อให้คยองซูได้ระบายความอึดอัดลงมาบนตัวเขา
ไม่ใช่ปล่อยให้เก็บไว้อยู่คนเดียวจนต้องมาเป็นลมไปต่อหน้าต่อตา
“อย่าเกร็ง.. อืม...” เสียงครางทุ้มในลำคอพร้อมกับขยับส่วนล่าง
พยายามแทรกเข้าไปทีละนิดเพื่อให้คยองซูได้ปรับตัว
แต่เป็นเพราะคยองซูเอาแต่บีบรัดเขา
ผลสุดท้ายเขาถึงต้องทนกับความอึดอัดแล้วกระแทกกายเข้าไปทีเดียวจนสุด
“อ๊า...!”
หวีดร้องสุดเสียงเมื่อรู้สึกถึงแรงกระแทกจนรู้สึกจุกไปทั่วท้อง
น้ำตาใสที่ล่วงหล่นจากหางตาก็ถูกริมฝีปากหยักจูบซับจนหายไปหมด
มือหนาคว้าเรียวขาให้แยกออกแล้วตั้งขึ้น
หยัดตัวเองให้อยู่ตรงกลางหว่างขาทั้งสองข้างแล้วเริ่มขยับกายเข้าออกช้าๆ
เพื่อเป็นการไม่เร่งเร้าจนเกินไป
“อ๊ะ.. อ๊ะ..”
“อืม..
แบบนั้นล่ะดีแล้วคยองซู” น้ำเสียงสั่นพร่าเอ่ยชมเมื่อคนตัวเล็กเลิกเกร็งแล้วปล่อยให้แกนกายขนาดใหญ่ที่แทรกอยู่ภายในช่องทางสีหวานได้ขยับเข้าออกอย่างเต็มที่
ริมฝีปากหยักเม้มแน่นเมื่อต้องข่มอารมณ์ที่อยากจะเร่งจังหวะให้เร็วกว่านี้
แต่กลัวว่า...
“ร.. เร็ว.. อีกฮะ..
พี่จงอิน..อ๊ะ!” ไม่ต้องกลัวเจ็บละครับงานนี้
เมื่อได้คำขอจากคยองซูมา
คิมจงอินคนนี้ก็พร้อมจะจัดให้เหมือนกัน
กายหนาโถมจังหวะช่วงล่างให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
ร่างทั้งร่างสั่นคลอนและไถลไปตามผืนเตียงจนมือหนาต้องจับเอวคอดไว้ให้มั่นแล้วสอดใส่ช่วงล่างเข้าไปไม่ยั้งจนได้กลิ่นคาวเลือดที่ไหลย้อนออกมาจากช่องทางที่กำลังตอดรัด
ก็นี่มันครั้งแรก..
เล่นใส่ไม่ยั้งขนาดนั้นแล้วเลือดไม่ออกก็คงจะแปลก
“อืมม..
อย่าแกล้งกันแบบนั้น”
“อ๊ะ..!”
คนตัวเล็กเผลอเกร็งช่วงล่างไปโดยไม่รู้ตัว
ทำให้ช่องทางคับแน่นแล้วบีบส่วนนั้นจนรู้สึกอยากจะปลดปล่อยออกมาเต็มที่
ความตึงเครียดเริ่มมาจ่อที่ปลายจงอินก็ยิ่งสวนสะโพกให้เร็วและแรงขึ้นจนคยองซูครางไม่เป็นศัพท์
“อ.. พี่จงอิน อ๊ะ..
อื้ออ” บดขยี้ริมฝีปากสีหวานที่กำลังเผยอขึ้นเพื่อโกบโกยอากาศไม่ทัน
สอดลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวพันจนเกิดเสียงอื้ออึงในลำคอแม้จะยังไม่ลดความเร็วที่ส่วนล่างลง นิ้วเล็กๆ
จิกลงบนแผ่นหลังหนาก่อนจะปลดปล่อยออกมาก่อนจนเปรอะเปื้อนหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อเรียงตัวอย่างสวยงามของจงอิน
“อื้มม..” ใบหน้าคมเชิดขึ้นพร้อมกับโถมกายแรงๆ สักพักจนกระทั่งหยุดไปเมื่อปลดปล่อยธารน้ำสีขาวใส่ในตัวของคยองซูจนหมดทุกอยาดหยด
จงอินทิ้งกายลงนอนข้างๆ
ดึงรั้งเอวบางเข้ามากอดไว้ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถอนกายออกมาจากช่องทางด้านหลัง
“คยองซู”
“...”
คนที่ถูกเรียกไม่ได้ตอบกลับมาเพราะกำลังสนใจอยู่กับอากาศที่ถูกช่วงชิงไปกับกิจกรรมเมื่อสักครู่นี้
จงอินก้มลงบนกลุ่มผมหอมที่เต็มไปด้วยไรเหงื่ออ่อนๆ
สูดดมความหอมเข้าไปจนพอใจแล้วเลื่อนต่ำลงไปบริเวณซอกคอขาวที่เต็มไปด้วยรอยรักที่เขาตั้งใจทำขึ้นมา
“ยังไม่คุ้มค่าง้อเลยนะ”
“ม.. ไม่เอาแล้ว...
อื้อ!”
ร่างบางถูกตะแคงให้นอนหงายแล้วโดนทาบทับอีกครั้ง..
ไม่ต้องบอกก็รู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
เพราะส่วนนั้นของจงอินมันเริ่มแข็งขืนจนแน่นช่องทางไปหมด
สรุปแล้วคยองซูหายจากโรคนี้แบบตัดขาด
หรือจะต้องทำให้พี่จงอินเจ็บตัวไปเรื่อยๆ แบบนี้กันนะ...
กลับไปอ่านต่อที่เว็บ แล้วก็อย่าลืมเม้นให้นะคะ
แล้วก็จะสอบถามเรื่องที่คนอ่านหายไปอ่า..
คือฟิคอุ๋มจะกลับมาดราม่าแล้วคนอ่านหายไปเยอะมากเลย T^T น้อยใจง่ะ
ถ้าอยากให้ปรับปรุงตรงไหนบอกได้นะคะ แต่อย่าทิ้งกัน TT