ภายในห้องปราศจากเสียงเอื้อนเอ่ยหรือเสียงทีวี
มีเพียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ส่งเสียงหึ่มๆตลอดเวลาการทำงานของมัน ดังนั้นมันไม่ยากเลยสักนิดที่จะรับรู้ได้ว่ามีใครกำลังร้องไห้อยู่บนเตียงนอนใต้ผ้าห่มผืนนั้น
ชานยอลหมุนเก้าอี้กลับมามอง
จากนั้นก็ลุกขึ้น เดินไปหยุดอยู่ที่ปลายเตียงแล้วค่อยๆ
ทิ้งตัวนั่งลงจนฟูกอ่อนยวบ
เขาคืบคลานไปจนถึงหัวเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มออกแล้วแทรกตัวเข้าไปโอบกอดร่างบางเอาไว้
ความอบอุ่นจากร่างกายทำให้น้ำตายิ่งทวีเพิ่ม
ชานยอลไม่ได้พูดปลอบโยน
เขาทำแค่ใช้มือลูบลงบนกลุ่มผมแล้วปล่อยให้เวลาเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ที่เริ่มเบาลง
แขนเรียวโอบกอดร่างกายของชานยอลเอาไว้
ซุกหน้าลงกับแผ่นอกเพื่อเช็ดน้ำตาจากนั้นไม่นานมือหนาก็เชยปลายคางมนให้ใบหน้าแหงนเงยขึ้น
ชานยอลใช้ริมฝีปากจูบซับหยาดน้ำตา แบคฮยอนปิดเปลือกตาลงรับสัมผัสอ่อนโยน
ไม่มีคำพูดอะไรจากปากของทั้งคู่..
ชานยอลรั้งเอวบางเข้ามาแนบชิดแล้วเลื่อนริมฝีปากไปทั่วใบหน้า เขาจูบซับที่หน้าผาก
เลื่อนไล้มาที่แก้มทั้งสองข้างผ่านจมูกรั้นแล้วเลื่อนต่ำมาจนชิดกับกลีบปากบางสวย
มาสเตอร์ไม่ได้ลุกล้ำ
เขาค่อยเป็นค่อยไป..
เขาใช้ริมฝีปากของเขาบอกเล่าความรู้สึก
เขาทั้งหวง เป็นห่วง
และร้อนรนแทบคลั่งตอนที่จางฮยอนซึงโทรเข้ามาแล้วบอกกับเขาว่าแบคฮยอนอยู่กับมัน
เขาทุรนทุรายมากถึงเพียงใดหลังจากที่เป็นฝ่ายกดตัดสายไปแล้วรอให้ตัวการโทรเข้ามาบอกสถานที่
เมื่อเขาขึ้นรถได้เขาก็เหยียบคันเร่งจนมิดไมล์
เขาไม่สนว่าจะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหรือไม่
วินาทีนั้นสิ่งที่สำคัญเพียงอย่างเดียวคือแบคฮยอน.. ใช่.. แค่แบคฮยอนคนเดียว
ลูกน้องของฮยอนซึงพุ่งเข้าเล่นงานเขาเป็นอันดับแรก
แต่ไม่ถึง 10
วินาทีพวกนั้นก็พากันหนีหายเมื่อบอดี้การ์ดของเขาเริ่มพากันวิ่งเข้ามายังตำแหน่งที่เขาอยู่ ชานยอลลอบมองเข้าไปในบ้านผ่านทางหน้าต่าง
เขาเห็นแบคฮยอนกำลังมองมาทางนี้ด้วยสภาพโรยแรงเต็มที่ แต่โชคดีที่แบคฮยอนยังไม่ตาย
นั่นทำให้เกิดรอยยิ้มบางๆ ที่ใบหน้าก่อนที่เขาจะเข้าไปในบ้านหลังนั้นพร้อมกับจงอิน
เขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายฮยอนซึง
เขาแค่คุยกันและขอเวลา..
แค่นั้น...
“ฉันห่วงนายแทบบ้า...” ชานยอลพูดออกมาทั้งๆที่ริมฝีปากยังคงคลอเคลียกับกลีบปากบาง
เขาพลิกตัวแบคฮยอนให้ขึ้นมาทาบทับ
ใช้มือหนาลูบไล้ที่ใบหน้าแล้วหยุดลงที่รอยแดงช้ำ..
นัยน์ตาสีเข้มจดจ้องมันอยู่ตรงนั้นแล้วหลับตาลงเพื่อข่มอารมณ์ร้อน
“วินาทีนั้นผมนึกอยากตาย” แบคฮยอนตอบกลับด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“เหมือนผมโดนทอดทิ้ง เพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้ผมรู้สึกแย่
แล้วยิ่งมาฟังสิ่งที่คุณพูดยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตผมเองไม่มีค่าอะไรเลย”
“ขอโทษ...”
“ฮึก..”
“ฉันขอโทษ”
ชานยอลใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยน้ำตาออก
แล้วเขาก็รั้งท้ายทอยแบคฮยอนต่ำลงมาจนใบหน้าเกือบจะแนบชิดกัน
“นายสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด...”
“...”
“ฉันจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้วแบคฮยอน”
แบคฮยอนหลับตาลงอีกครั้งเมื่อท้ายทอยถูกรั้งเข้าหาจนริมฝีปากประทับแนบสนิท
ชานยอลเอียงใบหน้าหาองศาที่เหมาะสมแล้วเริ่มนวดคลึงกลีบปากสวยด้วยริมฝีปากของเขา
ชานยอลเหมือนจะส่งผ่านความรู้สึกผ่านทางริมฝีปากและมือกร้านที่ไล้บนเนินแก้มอยู่ตลอดเวลา..
เขาใช้ปลายลิ้นบอกเล่าความห่วงใย
ชานยอลมอบสัมผัสโอนโยน จะว่าหวานก็หวาน จะว่าลึกซึ้งก็ลึกซึ้ง
แต่บางครั้งกลับร้อนแรงจนอีกคนแทบหลอมละลาย
มือหนาละออกจากใบหน้าแล้วเลื่อนไปสัมผัสกับเอวบางก่อนที่เขาจะพลิกตัวให้แบคฮยอนนอนลงบนเตียงส่วนตัวเขาก็ขึ้นไปคร่อมอยู่ข้างบนโดยที่ใช้มือหยัดกับผืนเตียงนุ่มเอาไว้
ชานยอลผละจูบออก
เขาใช้มือเสยผมที่ล่วงลงมาประปรายบนใบหน้าออกแล้วจ้องมองเด็กน้อยภายใต้อาณัติด้วยแววตาที่แตกต่างออกไปจากทุกที...
ทั้งอ่อนโยนและหวานซึ้ง...
“แบคฮยอน...”
“ครับ ?”
“ฉันอยู่ตรงนี้..
อยู่ข้างๆ นาย” เสียงทุ้มเอ่ยบอก วูบหนึ่งนัยน์ตานั้นเหมือนสั่นคลอนแต่แบคฮยอนก็ไม่ทันสังเกตเห็น
มือเรียวยื่นไปประคองใบหน้าหล่อคมแล้วเอ่ยคำที่ตนทบทวนมาเป็นอย่างดีแล้วจากเหตุการณ์หลายๆ
อย่างที่เกิดขึ้น
“ผมรักคุณ.. ชานยอล”
“...”
“มันอาจจะเร็วไปสักนิด
แต่ผมรักคุณ”
คนตัวเล็กไม่ได้สรรหาคำไหนมาอธิบายให้รูปประโยคดูสวยหรู
แบคฮยอนทำเพียงแค่ยิ้มนิดๆ บวกกับใบหน้าที่ขึ้นสีนั้นเป็นสิ่งยืนยันในคำพูด มาสเตอร์หนุ่มยิ้มกลับมานั่นยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ
แบคฮยอนสบตาสีน้ำตาลเข้มของชานยอลอยู่สักพักก่อนจะปิดปรือลงอีกหนเมื่อชานยอลโน้มใบหน้าต่ำลงมา
กลิ่น Marboro Ice Blast อ่อนๆ
จากลมหายใจยิ่งทำให้ชานยอลดูมีเสน่ห์.. ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดบนใบหน้า จากนั้นทั้งหมดทั้งมวลก็ถูกส่งเข้าสู่โพรงปากสีหวานที่เผยอขึ้นรับสัมผัส
การจูบของชานยอลมีชั้นเชิง
เขารู้ดีว่าตรงไหนคือจุดที่ไวต่อสัมผัส
การไล้เลียตำแหน่งใดที่จะทำให้รู้สึกดีและเป็นการบังคับให้ตอบสนองความต้องการของเขา.. ลิ้นร้อนไล่เรียงไปตามแนวฟันแล้วเดาะเล่นที่เพดานอ่อนก่อนจะบุกโจมตีอย่างหนักหน่วงเมื่อศัตรูเริ่มมีการโต้ตอบ ชานยอลฟาดฟันศัตรูด้วยลิ้น เขาดูดคลึงและขบเม้มบ้างก็เกี่ยวพันจนอ่อนแรงและแพ้ไม่เป็นท่าถึงได้ยอมถอยทัพ
แบคฮยอนหลุดหัวเราะในลำคอเมื่อชานยอลกัดเบาๆ
ที่กลีบปากล่าง ส่วนร่างบางก็ตอบโต้กลับด้วยการงับริมฝีปากบน
ชานยอลถดหน้ากลับไป
ก่อนจะใช้ดวงตาคู่คมมองไปทั่วเรือนร่างบาง
ซึ่งแบคฮยอนก็เข้าใจความหมายในการทำแบบนี้ดี...
มือเรียวส่งขึ้นไปสัมผัสกับไหล่กว้างแล้วใช้ฝ่ามือไล่สำรวจไปทั่วตั้งแต่ช่วงอกจนถึงหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อเรียงตัวอย่างสวยงาม
ชายเสื้อกล้ามสีเข้มถูกคว้าเอาไว้ด้วยมือเล็ก
ก่อนจะถูกเลิกขึ้นมาจนเผยให้เห็นสิ่งที่เนื้อผ้าเคยปกปิดเอาไว้ในคราแรก แบคฮยอนใช้สายตาไล่มองเรือนกายอีกคนอย่างถือวิสาสะ
ในขณะที่ชานยอลก็ใช้ช่วงเวลานี้ในการจัดการกับเสื้อเชิ้ตของเขาที่ให้แบคฮยอนสวมใส่เอาไว้
แล้วเมื่อไร้สิ้นอาภรณ์ปิดกั้นเรือนกายช่วงบน ริมฝีปากหยักก็กดประทับลงบนลาดไหล่เล็ก
ขบเม้มสร้างรอยสีแดงเข้มเอาไว้หลายรอยจนมาถึงเนินแผ่นอกเล็กและหยุดไว้ที่ติ่งไตเม็ดงาม
“อะ.. อ๊ะ!” แบคฮยอนหลุดร้องเมื่อสัมผัสชื้นแฉะแตะลงบนจุดไวต่อสัมผัส..
แผ่นอกสะท้อนขึ้นลงเมื่อลิ้นร้อนบดคลึงไปรอบๆ
แล้วหยอกล้อกับเม็ดทับทิมที่เริ่มแข็งขึ้นเป็นไต
ใบหน้าขึ้นสีชมพูระเรื่อเชิดขึ้นครางกระเส่า
ยิ่งมาสเตอร์เน้นย้ำมากเท่าไร
หัวใจดวงน้อยก็เหมือนถูกทารุณให้เต้นผิดจังหวะปานจะขาดใจ “อ๊า! ช.. ชานยอล”
ยิ่งได้ยินเสียงตอบรับก็คล้ายกับเจ้าของชื่อจะยิ่งกลั่นแกล้ง
ปลายนิ้วเลื่อนไปสะกิดตุ่มไตอีกข้างที่แข็งขึ้นเป็นไตไม่ต่างกัน
ชานยอลเริ่มใจร้อนเมื่อเห็นว่าร่างกายของแบคฮยอนตอบสนองเขาเป็นอย่างดี มือหนาอยู่ไม่สุข..
เลื่อนต่ำลงไปถึงสะโพกเล็กแล้วบีบคลึงอย่างเอาแต่ใจก่อนจะย้ายขึ้นมาดึงขอบบ็อกเซอร์ตัวใหญ่พร้อมกับชั้นในลงให้หลุดพ้นจากขาเรียว
ชานยอลใช้สายตาทอดมองเรือนร่าง
แล้วใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสกับผิวขาวลื่นมือ..
แบคฮยอนสั่นผวาเมื่อชานยอลสัมผัสไปทั่วทั้งกาย..
ไล่ตั้งแต่ซอกคอต่ำไปเรื่อยๆ จนถึงส่วนสำคัญ
แกนกายถูกมือใหญ่ครอบครอง
แล้วชานยอลก็ก่อการร้ายด้วยการชักมือขึ้นลงตามความยาว
“อ๊า.. อึก!” มือเล็กยกขึ้นปิดปาก
แบคฮยอนขลาดอายหากจะปล่อยเสียงนั้นให้ดังออกมาริมฝีปากเล็ก แต่ชานยอลกลับไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เขาดึงมือของแบคฮยอนที่ปิดปากออก
แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ร้องออกมา..
ฉันอยากฟังเสียงนาย”
ซึ่งนั่นก็ทำให้แบคฮยอนพร้อมจะเชื่อฟังราวกับเป็นเด็กดี
ฝ่ามือขยับขึ้นลงเนิบนาบ
เขาค่อยๆ ฝึกเด็กน้อยให้คุ้นชินกับเกมรัก.. แต่แล้วเมื่อแบคฮยอนย่ามใจในจังหวะ
เขากลับเร่งมือให้เร็วขึ้นเสียจนคนตัวเล็กสะดุ้งแล้วครางไม่เป็นภาษา
“อ๊ะ.. อะ.. อ๊า! ช.. ชานยอล อ..!”
เจ้าของชื่อเร่งจังหวะถี่ยิบ
เหงื่อกาฬเริ่มไหลจากขมับเล็ก.. ชานยอลซุกหน้าลงกับซอกคอขาว
สูดดมกลิ่นกายหอมแล้วดูดเม้มแรงๆ จนเกิดรอยไปทั่วบริเวณจนคนถูกกระทำต้องเม้มปากแน่นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังเสียวสะท้านไปทั้งกาย
ร่างบางกระตุกเกร็ง
เด้งตัวขึ้นรับจังหวะทรมานหัวใจอยู่สักพักก่อนจะปลดปล่อยคราบขาวออกมาจนเลอะฝ่ามือใหญ่แล้วทิ้งตัวนอนลงหอบแฮกอย่างหมดสภาพ
แต่ชานยอลไม่คิดจะปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า
ชานยอลใช้นิ้วมือกวาดน้ำรักป้ายลงบนช่องทางแทนเจลหล่อลื่นที่เขาไม่ได้พกมันติดบ้าน
นิ้วยาวสอดแทรกเข้าไปจนสุดข้อได้อย่างง่ายดายเมื่อมีตัวช่วยที่ทำให้อะไรๆ
ก็ง่ายขึ้น
แบคฮยอนสะดุ้งวาบ
ความรู้สึกเจ็บแสบแล่นปราดขึ้นสมองจนต้องกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
จริงอยู่ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่มาสเตอร์หนุ่มทำแบบนี้
แต่ในเมื่อคราวนี้ไม่ได้มีสารแปลกปลอมอะไรเข้ามาช่วยในเรื่องของความรู้สึก
ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะเกร็งไปทั้งตัว
นิ้วชี้ขยับเข้าออกอยู่สักพักเพื่อให้ร่างกายของอีกฝ่ายได้คุ้นชิน
ก่อนจะสอดนิ้วกลางเข้าไปเป็นนิ้วที่สอง และนิ้วนางเป็นนิ้วที่สาม
แล้วเขาก็เริ่มลงมือทำร้ายแบคฮยอนอีกหนด้วยการควานนิ้วหาจุดเสียวกระสันภายในกายเพื่อเรียกเสียงครางหวานๆ
“อะ.. อ๊า! อ๊ะ!...”
เพียงครู่เดียวชานยอลก็ถอนนิ้วออกไปเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังทนไม่ไหวกับช่วงล่างที่ปวดหนึบไปทั้งกาย กางเกงนอนขายาวถูกถอดออกพร้อมกับชั้นในสีเข้ม
ก่อนที่เขาจะคืบคลานเข้ามาใหม่แล้วใช้มือซ้อนขาพับของแบคฮยอนให้ตั้งชันขึ้น
ร่างกายเปลือยเปล่าแทรกเข้าไปที่หว่างขาเรียว
มือหนาประคองหนั่นเนื้อใหญ่ไว้แล้วเริ่มสอดส่วนหัวเข้าไป...
เพียงแค่นั้นคนที่ต้องแบกรับก็ถึงกับน้ำตาไหล
“จ.. เจ็บ... อึก!” แบคฮยอนบอกทั้งน้ำตา
มือเรียวจิกลงบนผืนเตียงนุ่มเพื่อระบายความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับ
แม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม
มาสเตอร์หนุ่มมองใบหน้าขึ้นสีจัดเพราะความเจ็บแสบ
ริมฝีปากแดงเผยอร้องบอกความรู้สึกอย่างน่าสงสารจนชานยอลอดไม่ได้ที่จะปลอบโยนด้วยการใช้ฝังจุมพิตที่กลีบปากสวย
ลิ้นร้อนส่งเข้าละเลียดชิมความหวานอย่างอ่อนโยนสลับกับหนักหน่วงในบางจังหวะ
และเขาก็ใช้ช่วงเวลาที่แบคฮยอนสนใจในรสจูบแทรกตัวเข้าไปเรื่อยจนสุดความยาว
ชานยอลขบกรามแน่น
เขารู้สึกถึงผนังอ่อนนุ่มตอดรัดจนรู้สึกปวดแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่..
เขาแช่กายไว้พักใหญ่เพื่อให้เวลาแบคฮยอนได้ผ่อนคลายก่อนจะถอนจูบออกมาแล้วบีบเฟ้นสะโพกเล็กเพื่อลดความเกร็ง
ซึ่งแบคฮยอนก็ตอบรับด้วยการขมิบตอดรัดเขามากขึ้นเป็นเท่าตัวจนทำลายความอดทนของชานยอลหมดสิ้น
ชานยอลเริ่มขยับกาย
ส่งผลให้หนั่นเนื้อเสียดสีกับผนังอ่อนนุ่มเป็นจังหวะ ลิ้นร้อนแลบเลียริมฝีปาก
จดจ้องดวงหน้าหวานที่เผยอปากครางอย่างหลงใหล
สะโพกสอบขยับเป็นจังหวะ
ชานยอลบรรเลงบทเพลงหวานซึ้งดั่งเสียงเปียโนสวรรค์ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกระหน่ำซัดราวกับการตีกลองเป็นจังหวะร๊อค
“อ๊า !!” แบคฮยอนหวีดร้องสุดเสียง
ความรู้สึกเจ็บแปลบหายไปเหลือไว้เพียงความเสียวกระสันที่แล่นพล่านไปทั้งกาย แววตาฉ่ำน้ำลอบสำรวจใบหน้าของคนที่ตนหลงใหลตั้งแต่คราแรกที่เห็น
ยื่นมือเรียวขึ้นสัมผัสกับรอนกล้ามหน้าท้องสวยงามอย่างเผลอตัวแล้วจิกเกร็งเมื่อชานยอลกระแทกกระทั้นกายเข้ามาอย่างหนักหน่วง
แลบลิ้นเลียริมฝีปาก
ดวงตาคู่คมจับจ้องส่วนนั้นที่ผลุบเข้าออกจากช่องทางอย่างกระหาย..
เรี่ยวแรงทั้งหมดถูกรีดขึ้นมาใช้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
“อ๊ะ! ต.. ตรงนั้น อื้อ..!” ครางร้องบอกเมื่อความยาวกระแทกเข้าจนโดนจุดกระสัน ใบหน้าหวานเชิดขึ้นเมื่อมาสเตอร์กลั่นแกล้งด้วยการเสือกกายไม่ยั้ง
ชานยอลเหมือนพายุลูกใหญ่
เขาปั่นป่วนและรุนแรงจนน่าหวั่นใจ...
มือหนาจับเอวคอดให้มั่นเหมาะเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนไถลไปกับพื้นเตียงตามแรงส่งจากทางช่วงล่าง
ชานยอลครางต่ำในลำคอ
ยิ่งแบคฮยอนใกล้ถึงฝั่งมากเท่าไร ช่องทางก็ยิ่งตอดรัดเขามากขึ้นเท่านั้น
จังหวะร๊อคถูกบรรเลงแบบไม่มีความปรานี
ชานยอลกระหน่ำซ้ำซัดเข้ามาจนแบคฮยอนเด้งตัวรับแล้วร้องครางออกมาอย่างน่าสงสาร
แต่ชานยอลก็ไม่ได้หยุดการกระทำในเมื่อเสียงครางนั้นไม่ได้เกิดจากความทรมานแต่มันเกิดจากความเสียวซ่าน
ชานยอลถอนกายออกจากช่องทางโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนที่ร่างบางจะถูกจับพลิกคว่ำแล้วโดนยกสะโพกขึ้นเพื่อรับหนั่นเนื้อที่แทรกเข้าไปสุดในรวดเดียว
ใบหน้าซบลงกับหมอน
ฟันคมกัดลงบนปุยอ่อนนุ่มเพื่อระบายความอึดอัด
แล้วเสียงครางก็เริ่มดังออกมาไม่ขาดสายเมื่อชานยอลขยับตัวเข้าออกด้วยความร้อนแรงอีกครั้ง
มาสเตอร์หนุ่มเอาแต่มองส่วนนั้นที่เชื่อมติดกัน
จากนั้นเขาก็ขาดสติควบคุมตัวเมื่อท่าทางแบบนี้ทำให้เข้าไปลึกได้มากขึ้นกว่าเดิม
ซ้ำแบคฮยอนก็ยังตอดรัดเขาชนิดที่ว่าถี่ยิบ
ชานยอลสวนกายเข้าไปซ้ำๆ
เหงื่อกาฬไหลออกมาทั่วทั้งกายจนต้องใช้มือปาดส่วนที่อยู่บนหน้าผากออกไปแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เสียจังหวะ
เพลงรักที่เขากับแบคฮยอนร่วมร้องยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง
เสียงครางไม่ได้จางหายจะมีแต่ทวีความดังมากขึ้นเท่านั้น
หน้าขากระทบกับสะโพกเล็กจนเกิดเสียงเคล้าคลอกับขาเตียงเสียดสีพื้น
แต่ก็ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงร้องของคนบนเตียง
แบคฮยอนกระพริบตาถี่รัว
น้ำตารินไหลออกมาหากแต่หาใช่ความทรมานกาย
ทั้งหมดเกิดจากความเสียวที่ได้รับจากพฤติกามล้วนๆ ความอึดอัดเริ่มก่อตัวขึ้น
ร่างเล็กซบหน้าลงกับหมอนก่อนจะเอ่ยบอกความรู้สึกให้ผู้กระทำได้รับ แต่ก็พูดได้ไม่เยอะเท่าไร
“อ.. ผ.. ผมไม่.. อ๊ะ! อ๊า!!”
เพราะเขาเสร็จก่อนที่จะพูดจบด้วยซ้ำ...
ร่างบางอ่อนระทวยไปทั้งกายจนชานยอลต้องใช้มือประคองเอวคอดให้ตั้งไว้ มาสเตอร์หนุ่มกระแทกกายรุนแรงอยู่สองสามครั้ง
ก่อนที่น้ำอุ่นจะถูกฉีดเข้าที่ช่องทางจนหมดสิ้น...
กลับไปอ่านต่อนะฮับ ยังไม่จบ http://my.dek-d.com/09061996/writer/viewlongc.php?id=1168202&chapter=9