การเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตที่นอนอยู่ภายในอ้อมกอดทำให้มาสเตอร์หนุ่มต้องตื่นขึ้นมาในความมืดมิด
ดวงตาคู่คมกะพริบถี่เพื่อปรับสภาพให้คุ้นชินก่อนจะก้มมองคนตัวเล็กที่ได้ขยับนอนหันหลังใส่เขาเมื่อสักครู่
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องตื่นขึ้นมากลางดึกแบบนี้
กลิ่นหอมบริสุทธิ์ของแบคฮยอนทำให้อดไม่ได้ที่จะก้มลงใช้จมูกกดลงที่กลุ่มผม
และต่ำมาเรื่อยๆจนถึงท้ายทอย
ลมหายใจอุ่นร้อน
จังหวะการเต้นของหัวใจเริ่มรุนแรง...
ชานยอลมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ได้ใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งสัมผัสกับเรือนร่างนุ่มนิ่ม
มือหนาวางลงบนเสื้อยืดตัวโคร่งที่แบคฮยอนสวมใส่หลังจากอาบน้ำเสร็จ
เขาค่อยดึงรั้งลงมาจนหลุดจากลาดไหล่ แล้วริมฝีปากหยักก็ประทับลงเบาๆ
ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นการดูดเม้มสร้างรอยรักไว้ให้ดูเล่นๆ
มืออีกข้างที่ว่างเลื่อนต่ำไปถึงขอบกางเกงขาสั้นแล้วสอดมือเข้าไปข้างใน ชานยอลบีบคลึงสะโพกเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว และคงจะออกอาการมากไปหน่อยเลยทำให้คนตัวเล็กเหมือนจะรู้สึกตัวและครางอื้ออึงในลำคออย่างนึกรำคาญที่มีคนมาก่อกวนในยามหลับไหล
แต่แบคฮยอนก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาโวยวาย ชานยอลจึงได้โอกาสในการซุกซนกับเรือนร่างนี้ต่อ
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แบคฮยอนเคยพูดโอ้อวดว่าภูมิใจในสะโพกของตนมาก
เพราะมันกำลังพอดี ไม่ได้ใหญ่เกินไปและไม่เล็กเกินไป ซึ่งชานยอลก็เห็นด้วยแล้วชอบมากเหมือนกัน
ยิ่งตอนที่สะโพกนุ่มยกขึ้นรับการกระแทกจากเขา
เขาก็ยิ่งชอบ...
ชานยอลยกศีรษะขึ้นมองใบหน้าหวานยามหลับพริ้ม
เขาใช้ปลายจมูกคลอเคลียที่แก้มนวลเนียนก่อนจะกดลงและซึมซับกลิ่นเด็กน้อยเข้าเต็มๆปอดจนเกิดเสียงดังฟ่อด แต่แบคฮยอนก็ไม่ยอมตื่นขึ้นมาอยู่ดี
และชานยอลก็ใจเย็นพอที่จะให้แบคฮยอนหลับต่อไปแม้ว่าตัวเขาจะ ‘ตื่น’ แล้วก็ตาม
ก้านนิ้วยาวแทรกเข้าไปในช่องทาง
ความคับแน่นในยามที่นิ้วกลางสอดลึกทำให้ชานยอลนึกจินตนาการไปถึงตอนที่เขาสอดใส่ของเขาเข้าไปแทน
เขาขยับนิ้วเข้าออกเพียงนิดหน่อย
แต่การกระทำนั้นก็ทำให้คิ้วเรียวขมวดมุ่นและเริ่มรู้สึกตัว
“อ.. อืออ” คนที่ถูกกระทำครางออกมา ความรู้สึกเจ็บแสบที่ช่องทางทำให้ต้องพลิกตัวนอนหงายจนนิ้วยาวหลุดออกไป
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้น
“แบคฮยอน...” เสียงนุ่มทุ้มก้มกระซิบข้างหู
หวังจะปลุกให้อีกคนตื่นขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้ผล
“ตื่นเถอะเด็กดี” และชานยอลก็ขึ้นไปทาบทับเอาไว้ทั้งร่าง
เขามุดศรีษะเข้าไปในเสื้อยืดตัวใหญ่
พ่นลมหายใจใส่ท้องน้อยให้เกิดอาการขนลุกกันเล่นๆ ก่อนจะใช้ลิ้นไล้เลียบริเวณนั้นแล้วไล่ขึ้นไปจนถึงแผ่นอกบาง
เขาจี้เน้นที่ยอดอกชมพูอ่อนซึ่งเป็นจุดอ่อนของแบคฮยอน
แล้วใช้ริมฝีปากนุ่มงับคลึงเบาๆ จนได้ยินเสียงร้องพร้อมกับการขยับตัวยุกยิก
“อื้อ! ช.. ชานยอล!”
มือเล็กพยายามผลักไหล่กว้างของอีกคนให้ถอยออกไปเมื่อตื่นเต็มตา
กางเกงขาสั้นที่สวมใส่เอาไว้ในตอนแรกถูกถอดออกไป
ขาทั้งสองข้างถูกจับตั้งชันแล้วชานยอลก็แทรกเข้าไปนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างนั้น
“เป็นบ้าอะไรเนี่ย! น.. นี่!” ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงแท่งเนื้อร้อนที่แข็งขึ้นมาโดนตรงช่องทาง
ถอดกางเกงออกไปตั้งแต่เมื่อไร..
ทำไมถึงไม่รู้ตัวเลยซักนิด!
“นายยั่วฉันเอง”
“ผมไปยั่วคุณตอนไหน ?
อ.. ช.. ชานยอล อย่าเพิ่ง อ๊ะ!”
“อืม.. อย่าเกร็ง” ครางทุ้มต่ำในลำคอยามที่สอดใส่แท่งร้อนเข้าไปในช่องทาง
แบคฮยอนเม้มปากแน่น
พยายามเก็บเสียงเอาไว้เพราะกลัวว่าคนในบ้านจะแตกตื่น
แต่เหมือนชานยอลจะไม่ให้ความร่วมมือเลยซักนิด
มาสเตอร์หนุ่มค่อยๆ
เสือกกายเข้ามา มือทั้งสองข้างก็บีบเฟ้นสะโพกนุ่มนิ่มเพื่อลดความเกร็ง
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายนัก
ริมฝีปากค่อยๆ
เผยอออก แหงนเงยใบหน้าบนหมอนแล้วหอบครางออกมาไร้เสียงเมื่อเขาทั้งคู่หลอมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง
ร่างกายที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบโน้มต่ำลงมา ชานยอลใช้มือลูบไปตามโครงหน้าตามแบบฉบับคนเกาหลีซึ่งไม่ได้มีการแต่งเติมอย่างหลงไหล
เพื่อยืดเวลาให้แบคฮยอนได้ปรับตัวก่อนที่จะต้องรับศึกหนักต่อจากนี้
รู้ว่าการทำรักทั้งๆที่ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ
ช่วยเหลือมันคงจะเจ็บมากพอสมควร และมันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเขาจะเป็นฝ่ายที่เสพสมหากแต่แบคฮยอนเป็นฝ่ายที่ต้องทรมาน
เขาอยากมีความสุขไปพร้อมๆ
กัน.. เขาไม่อยากเห็นแก่ตัวกับแบคฮยอนมากไปกว่านี้
“พรุ่งนี้ผมมีเรียนนะชานยอล...”
แบคฮยอนพูดเสียงแผ่วเบา
แต่ถึงอย่างนั้นชานยอลก็ได้ยินมันชัดเจนเมื่อภายในห้องมีแค่เพียงเสียงเครื่องปรับอากาศกับเสียงการหายใจของคนสองคนเท่านั้น
“จะให้ฉันหยุดมั้ยล่ะ ?”
“...”
“ว่าไง ?”
คำถามถามย้ำนั่นทำให้เลือดสูบฉีดจนใบหน้าขึ้นสี
แบคฮยอนเมินหน้าไปอีกทางเมื่อโดนสายตาร้อนแรงจับจ้องเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ “อย่าทำแรงจนผมแทบเดินไม่ไหวอย่างครั้งที่แล้วก็พอ...”
สิ้นคำตอบ
แบคฮยอนก็ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอจากอีกคน
จนอดไม่ได้ที่จะทุบมือลงบนแขนแกร่งด้วยความหมั่นไส้
และชานยอลก็ตอบสนองกลับด้วยการบดเบียดริมฝีปากลงไปที่กลีบปากบางส่วนช่วงล่างก็เริ่มขยับแผ่วเบา
แม้ในยามแรกจะเจ็บปวดจนทรมาน
แต่เมื่อความปรารถนาเข้าครอบครองจิตใต้สำนึก
กระแสความสุขจึงเริ่มไหลวนไปทั่งร่างกายและจิตใจ
“อ๊ะ.. เบาๆ อื้อ! เบาๆ หน่อยสิชานยอล!” แบคฮยอนร้องห้ามเมื่อมาสเตอร์หนุ่มเริ่มเร่งจังหวะให้เร็วมากขึ้นจนเตียงเริ่มส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดตามการเคลื่อนไหว
แต่ถึงอย่างนั้นชานยอลก็ไม่ได้สนใจ
ในเมื่อช่วงเวลาตี 3 คือเวลาที่คนจะนอนหลับสนิทและลึกมากที่สุด
ดังนั้นการจะตื่นขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ถ้าไม่มีเสียงหวีดร้องเพราะความกระสันล่ะก็นะ...
ชานยอลถอนกายออกมาแล้วลุกขึ้นข้างเตียงก่อนจะจัดการดึงมือเล็กให้ลุกตามขึ้นมาด้วย
เขาดันร่างแบคฮยอนให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะเขียนหนังสือริมห้อง จัดการชันขาเรียวขึ้นบนโต๊ะและแหวกกว้างเพื่อให้ตัวเขาสามารถแทรกเข้าไปได้
แล้วความใหญ่โตก็กระทุ้งเข้ามาทีเดียวจนมิดด้าม
“อ๊ะ.. อ๊า...”
ครางเสียงสั่นเพราะขนาดของร่างสูง พร้อมกับแขนทั้งสองข้างที่ส่งไปโอบรอบคออีกคนไว้
ชานยอลสวนสะโพกเข้าออกเป็นจังหวะ
เขาใช้มือกอดรัดเอวบางเอาไว้ในอ้อมแขน
ก้มลงใช้ริมฝีปากจูบซับไปตามใบหน้าและหยุดลงที่กลีบปากสวย
ส่วนแบคฮยอนก็ละมือออกจากรอบลำคอแล้วเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อที่ชานยอลสวมใส่
มือเรียวสั่นรุนแรงจนการริดกระดุมเป็นเรื่องที่ยาก
ชานยอลเอาแต่สอดใส่เข้ามาไม่ยั้งจนร่างทั้งร่างสั่นคลอนรวมทั้งหัวใจที่เบาหวิวและวูบหล่นในบางครั้ง
สาบเสื้อถูกแยกออกจากกันเมื่อจัดการกระดุมได้หมดทุกเม็ด ดวงตาเรียวรีกวาดมองกล้ามหน้าท้อง ใช้มือลูบเบาๆ อย่างหลงใหลและนึกอิจฉาในความสมบูรณ์แบบซึ่งตนไม่มี
แต่เวลาในการสำรวจร่างกายก็มีไม่มากนักเมื่อมาสเตอร์หนุ่มเริ่มตะกละตะกลามในการสอดใส่มากกว่าเดิม
ชานยอลอุ้มร่างบางขึ้นมาจากโต๊ะ
เขาเดินกลับไปที่เตียงอีกครั้งแล้วทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงพร้อมกันทั้งๆ
ที่ร่างกายยังคงเชื่อมต่อกันอยู่
มือทั้งสองข้างหยัดไว้กับเตียงเพื่อไม่ให้ทิ้งน้ำหนัก
จากนั้นเขาก็เร่งจังหวะ
ดวงตาของทั้งสองสบกันโดยความบังเอิญ
และนั่นยิ่งทำให้ชานยอลถูกลิดรอนความอดทน
“อ๊า...! อื้อ!” หวีดร้องสุดเสียงเมื่อชานยอลเร่งจังหวะเร็วมากขึ้นจนเป็นถี่ยิบ
ความยาวกระแทกโดนจุดกระสันนับครั้งไม่ถ้วนจนเผลอปล่อยเสียงดังออกมา
และเมื่อจะยกมือขึ้นปิดปากก็กลับทำไม่ได้เมื่อชายหนุ่มคว้ามือทั้งสองข้างกดลงกับเตียง
แบคฮยอนหันมาจิกตาใส่อย่างนึกโมโห
หากมาสเตอร์ยังคงเร่งให้เร็วขึ้นกว่านี้มีหวังพ่อกับแม่คงได้ยินทั้งเสียงเตียงและเสียงร้อง..
“บ.. เบาๆ อื้อ!”
“เบาไปเหรอ ? อืมม...”
“ไม่ใช่นะ ผมไม่ได้..
อ๊ะ!” ไม่ทันได้ตั้งตัว
ร่างทั้งร่างก็โดนจับพลิกให้นอนคว่ำ
แบคฮยอนซุกหน้าลงกับหมอน
เตรียมเก็บเสียงหวีดร้องเพราะรู้ตัวว่าชานยอลกำลังจะเล่นเพลงร็อคให้หัวสั่นหัวคลอนอย่างครั้งที่แล้ว
และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ...
มือหนาจับเอวบางไว้มั่นพร้อมกับการสอดใส่แบบไม่ยั้งจนได้ยินเสียงหวานครางใส่หมอนใบโตอย่างสุดจะทน
มือเรียวจิกเข้ากับผ้าปูเตียงเพื่อระบายความรู้สึกแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยซักนิด
ขนาดของชานยอลน่าหวั่นใจ
ลีลาของเขาร้อนแรงและแผดเผาให้แบคฮยอนแทบตายทั้งเป็น..
แต่คนตัวเล็กก็ไม่กลัวหากว่าความตายนั้นเป็นชายหนุ่มคนรักที่หยิบยื่นมันมาให้
ชานยอลดึงแขนทั้งสองข้างของแบคฮยอนขึ้นมา
จากนั้นเขาก็ไม่สนท่วงท่าว่ามันจะสวยงามหรือไม่
เพราะสิ่งที่น่าสนใจกว่าคือเรือนกายของเด็กหนุ่มตรงหน้า
ดวงหน้าสวยแหงนเงยขึ้นตามท่าทางที่ถูกจัดขึ้น
แก้มนวลเนียนขึ้นสีแดงจัดกับริมฝีปากหวานที่เผยอหอบครางปานจะขาดใจเพราะความกระสันที่ได้รับจากท่วงทำนองที่บาดลึก
ชานยอลบรรเลงเพลงที่ไม่เคยซ้ำกัน
บ้างก็หวานซึ้งบ้างก็ร็อคถี่รัว แต่ถึงอย่างนั้นแบคฮยอนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ชอบมัน...
ริมฝีปากหยักประทับบนแผ่นหลังบางอย่างอ่อนโยน
ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดและไล่ขึ้นไปจนถึงใบหูแล้วลิ้นชื้นก็แตะบางเบา
“อ๊า..”
“อย่าดื้อกับฉัน..
เป็นเด็กดีนะแบคฮยอน”
“อ๊ะ! ช.. ชาน อื้อ...” นึกอยากจะพูดแต่ก็พูดไม่จบเมื่อชานยอลทวีความรุนแรงมากขึ้น
ชานยอลเคลื่อนกายเร่งเร้า ยิ่งแบคฮยอนตอดรัดมากขึ้นเท่าไร
เขาก็ยิ่งอยากกลืนกินแบคฮยอนมากขึ้นเท่านั้น
“เป็นของฉัน อืม....
เป็นของฉันแค่คนเดียว”
“อ.. ผม อ๊ะ! เป็นของ อื้อ... คุณ”
คำตอบรับเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าโซมเหงื่อ
ชานยอลปล่อยแขนทั้งสองข้างของแบคฮยอนให้เป็นอิสระแล้วโน้มตัวทาบทับแผ่นหลัง เกยคางไว้บนลาดไหล่ขาว ผมสีดำที่ยาวลงมาปรกหน้าคมคายทำให้แบคฮยอนไม่สามารถเห็นใบหน้าของคนที่ส่งเสียงครางต่ำข้างหู
มือหนาควานสะเปะสะปะไปตามเรือนร่าง
แล้วหยุดลงที่แกนกายเล็ก
ชานยอลรูดรั้งตามความยาวพร้อมกับช่วงล่างของเขาที่ยังคงขยับเข้าออกไม่หยุด
“อ๊า! ชานยอ..ล ผม.. อื้อ! ผมไม่ไหว อ๊ะ.. อ๊ะ!”
“อ่าส์... ข้างในนะคนดี”
เขาให้สัญญาณแค่นั้นก่อนจะดันตัวเองขึ้นหยืดหลังตรงแล้วเร่งอัตรา เขากระแทกเข้ามาสุดแรง
เคลื่อนกายเข้าออกอย่างสุดกำลังเพราะความปรารถนามันมาจ่อที่ปลายท่อ
ชานยอลบรรเลงดนตรีช่วงสุดท้ายได้เร่าร้อนเกินกว่าจะบรรยาย
เสียงหวีดของนักร้องเสียงดีดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนทุกอย่างจะสงบลงเมื่อน้ำอุ่นถูกฉีดเข้ามาในตัวแล้วเอ่อล้นออกมาจนเลอะเรียวขาขาว
แบคฮยอนทิ้งตัวลงนอน
ไม่ได้สนใจว่าท้องของตัวเองจะทับคราบรักที่ทิ้งเอาไว้หรือไม่
ชานยอลทิ้งตัวลงนอนทับร่างบางทั้งที่ยังไม่ได้ถอนกายออกมาจากช่องทาง
ได้ยินเสียงบ่นงุ้งงิ้งจากคนตัวเล็กแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้สำนึกอะไร
“เอาออกไปได้แล้ว...”
“ไม่”
“ผมจะนอน อ๊ะ! ไม่เอาแล้วชานยอล!”
พูดห้ามยังไม่ทันจบชานยอลก็กระแทกกายเข้ามาอีกครั้ง ชานยอลไม่ได้สนใจกับคำด่าทอ
หรือเสียงที่จะไปรบกวนคนอื่น
เพราะสิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือเสียงครางหวานหูจากแบคฮยอนเท่านั้น
“นายไม่เอา
เดี๋ยวฉันเอาเอง (:”
คืนนี้... คงไม่ได้นอน
กลับไปเม้นท์ให้หนูก่อนนะฮับ http://my.dek-d.com/09061996/writer/viewlongc.php?id=1168202&chapter=12