“ขอให้อาจารย์ชานยอลเสพสุขกับนักศึกษาของตัวเองให้เต็มที่นะครับ”
คำพูดของเขา...
เซฮุนที่ยืนฉีกยิ้มอยู่ตรงหน้าผมกับอาจารย์ทำให้ผมอยากจะลุกขึ้นแล้วเดินไปจากสถานการณ์บ้าๆ
แบบนี้ หากแต่เมื่อผมพยายามจะแกะมือออก อาจารย์ชานยอลกลับยิ่งรัดตัวผมมากกว่าเดิมจนแผ่นหลังของผมชนกับแผงอกกว้าง
ผมหันไปมองเสี้ยวหน้าเขาเพราะต้องการจะเอาเรื่องแต่เมื่อเห็นแววตานิ่งสนิทที่เขาใช้จ้องกลับเซฮุนมันทำให้ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่
ไม่รู้ว่าเซฮุนหรืออาจารย์ที่จะปะทุก่อนกันแน่...
“ต่อให้คุณไม่พูด ผมก็ตั้งใจจะทำอยู่แล้ว” อาจารย์พูดเสียงเรียบ หากแต่มือของเขากลับกำมือผมเอาไว้แน่น “เชิญสิ... ผมไม่ได้ต้องการให้คุณมาเสนอหน้าอยู่ตรงนี้หรอกนะ”
เมื่ออาจารย์ชานยอลพูดจบเซฮุนก็แค่นยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกไปจนหายลับไปจากสายตาของผม...
แย่ชะมัด เราไม่ควรจะมาทะเลาะกันหลังจากที่เพิ่งสารภาพรักกันสิ
หากสมหวังก็ควรยิ้มสุขสม
หากว่าโศกเศร้าก็ไม่ควรลงเอยด้วยการแตกหักแบบนี้ไม่ใช่หรือไง
หรืออย่างน้อยเราก็ควรให้เวลากันและกันเพื่อจะได้ปรับตัวมาเป็นอย่างเดิมได้
ไม่ใช่แบบนี้... มันไม่ควรจะจบลงแบบนี้...
ผมแกะมือปลาหมึกของอาจารย์หนุ่มออกไปได้เมื่อเซฮุนเดินออกไปแล้ว
เหมือนเขาเองก็จงใจจะคลายมันออก
“อาจารย์ทำแบบนี้ทำไม !?”
“ผมทำอะไรผิดล่ะแบคฮยอน...” เขาพูดและหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ที่เดินมาทางเราพอดี
“น้ำเปล่ากับมอสโกมิวล์ครับ”
“ผมกำลังจะเดินหนีเขาไปได้อยู่แล้ว!”
“เดินหนีไปหลังจากที่เขาพูดจาดูถูกคุณไว้งั้นเหรอ
?”
“...”
“คุณไม่คิดจะปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองเลยหรือไง
?”
“ที่เซฮุนพูด...
มันก็ถูกไม่ใช่เหรอครับ ?”
“...”
“ผมไปห้องคุณ
อยู่กับคุณ เกิดเรื่องบ้าๆ จนแม้แต่คุณเองก็ยังดูถูกผม
แถมยังจูบกันโดยที่ผมก็ไม่ได้ขัดขืน... ทั้งๆ ที่ผมเป็นลูกศิษย์ของคุณ”
ผมพูดและย้ายก้นไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ
เขาเพื่อจะได้ไม่ต้องยืนจนเมื่อยเพราะผมคิดว่าเราคงได้คุยกันอีกยาว
การที่เขามาบาร์โฮสต์และตรงดิ่งมาหาขนาดนี้ผมก็มั่นใจแล้วล่ะว่าคืนนี้เขาคงตั้งใจจะมาหาผมมากกว่าหาเด็กโฮสต์คนอื่นแน่ๆ
อาจารย์ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นวางบนบาร์
เขาประสานมือกันไว้ใต้คางแล้วหันมามองทางผมที่นั่งหมุนเก้าอี้ไปหาเขาเข้าพอดี
“คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าแบคฮยอน...” อาจารย์เอ่ยพลางยกแก้วทรงสูงที่บรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีขาวข้นที่เขาสั่งมาเมื่อสักครู่แล้วส่งแก้วน้ำเปล่ามาให้กับผม
“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนที่มีความคิดเด็กน้อยอย่างใครหลายๆ
คน หรือพยายามทำตัวใสซื่อหรอกนะ”
“...”
“ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวแบบนี้กับนักศึกษาของตัวเอง”
“อาจารย์จะบอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นงั้นเหรอครับ”
“คุณคิดว่าไง...” เขาดื่มอีกครั้งจนมันเหลือเพียงครึ่งแก้วและวางลงกับโต๊ะ “เด็กดี... มีอะไรที่ผมต้องอธิบายเพิ่มเติมอีกงั้นหรือ ?”
ปลายนิ้วของเขาวางบนขอบแก้ว...
ผมมองเห็นมันด้วยหางตาและกลับมาสบตากับเขาอีกครั้ง... เขาผู้เป็นเจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาล...
เขาผู้ควบคุมสติสัมปชัญญะของผมได้โดยสิ้นเชิง...
เขาแลบลิ้นออกเลียริมฝีปากตนเองก่อนที่จะยกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้ง
และผมเห็นว่าของเหลวสีขาวนั่นเปื้อนที่ปลายคางของเขา
โดยตั้งใจ...
“มานี่สิ... แบคฮยอน...”
“อาจารย์...”
“ทำความสะอาดให้ผมที”
ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนตักของเขา
คล้องแขนไว้กับท้ายทอยของเขาและเอนเอียงใบหน้าให้ได้องศา...
ใบหน้าของเราเคลื่อนเขาหากัน แต่ริมฝีปากของผมไม่ได้จบลงที่ปากเขา
ผมแลบลิ้นเรียวเล็กออกมาและเลือกเลียตรงส่วนนั้น... ที่เปื้อนของเหลวสีขาวข้น
ผมได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอและใบหน้าของผมก็เชิดขึ้นเมื่อมือหนาเชยคางผมขึ้นไป
เขาบังคับให้ผมสบตากับเขาด้วยความร้อนที่พวยพุ่งอยู่ในความดำมืดในนัยน์ตาคู่นั้นที่ผมหลงไหลมันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เชยชม
“คุณไม่ได้เมาใช่มั้ย ?”
“ไม่...
ผมยังไม่ได้ดื่ม... แต่กำลังจะดื่ม”
ผมถือวิสาสะยื่นมือไปคว้าแก้วแอลกอฮอล์ที่เหลือเพียงครึ่งมาดื่มต่อหน้าเขาและจงใจให้ของเหลวเหล่านั้นเอ่อล้นจากปากไหลลงมาเปรอะเปื้อนที่ช่วงลำคอและหน้าอกที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตที่ผมสวมมาทำงานวันนี้
“อา... หกหมดเลย” ทำแสร้งทำเสียดายพลางซ้อนตาขึ้นมองเขาที่จ้องมองผมตาไม่กระพริบ
“ทำความสะอาดให้บ้างสิครับอาจารย์... เลียให้ผมหน่อย”
“หึ...” เขาหัวเราะหึเบาๆ
พอให้ผมได้ยินก่อนที่จะรั้งแผ่นหลังของผมให้แนบสนิทกับตัวเขา
ใบหน้าคมคายที่ใครต่อใครต่างก็หลงใหลซุกลงกับซอกคอของผม
หัวใจผมเต้นถี่รัวเมื่อลมหายใจอุ่นร้อนรินรดที่หลังใบหู
เขาหอบหายใจแรงเสียใจผมตัวสั่น
และส่วนแข็งขืนของเขาที่ทำให้ผมได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอย่างไม่ปิดบัง
เขาพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ และกระซิบที่ข้างหู “คุณรู้ว่าเขามองคุณอยู่”
“...”
“ดื่มกับผมสิ
แล้วผมจะพาคุณออกไป...”
“อาจารย์จะมอมผมเหรอ ?”
“เปล่า
ผมให้คุณมอมตัวเอง”
เขาแลบลิ้นออกมาแล้วเลียทำความสะอาดแอลกอฮอล์ที่เปรอะเปื้อน
เขาลากลิ้นยาวลงมาตั้งแต่หลังใบหูจนถึงแอ่งหลุมตรงกลางที่ช่วงล่างคอของผมทั้งที่สายตายังคงซ้อนมองอยู่
ผมหลับตาสนิทพลางปล่อยเสียงน่าอายออกมาเมื่อเขาบดขยี้ปลายลิ้นที่แอ่งหลุมนั้น
เล็บผมจิกลงบนแขนของเขา ขนกายลุกชันโดยไม่ตั้งใจ
“อะ... อาจารย์...”
ผมเผยอปากหลุดเสียงน่าอายออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ลิ้นของเขาช่างทำความสะอาดได้ดีเหลือใจเมื่อมันไล้เลียไปตามตำแหน่งที่น้ำพวกนั้นไหลลงสู่ร่างกายของผม
“อา... อาจารย์ชานยอล...”
“เขามองคุณอยู่...”
“ทำให้มากกว่านี้สิครับ...
อ๊ะ !”
“คุณเสนอเองนะ”
ผมร้องอย่างตกใจเมื่อกำลังจะหงายหลัง
แต่อาจารย์กลับคว้าเอาไว้และยกขาของผมขึ้นมาข้างหนึ่งเพื่อย้ายมันไปอีกฝั่งให้ผมนั่งคร่อมอยู่บนตักของเขา...
มันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่เราจะจูบหรือทำอะไรกันที่ไม่เลยเถิดมากจนเกินไปในสถานที่แบบนี้
และอาจารย์ชานยอลก็คงรู้ดีเขาถึงได้รั้งใบหน้าของผมเข้าไปหาเขาและบดขยี้จูบมาอย่างร้อนแรง
แขนแกร่งโอบรอบเอวผมเอาไว้
ดึงรั้งให้ร่างกายของเราแนบชิดพอๆ กับริมฝีปากของเราที่ประกบกันสนิทและเขาก็รุกล้ำเข้ามาในปากของผมด้วยลิ้นของเขา
เป็นอีกครั้งที่เราสัมผัสกันด้วยเรียวลิ้นที่มีกลิ่นมอสโกมิวล์และรสชาติขมอมหวานของมันปะปนมาด้วย
เราเชื่อมต่อกันด้วยสัมผัสร้อนชื้น ผมหลับตาสนิท... ภาพของเซฮุนเลือนหายไปจากสมอง
สิ่งที่รู้สึกและรับรู้ได้มีเพียงสัมผัสของเขา กลิ่นของเขาและรสชาติของเขา...
รสชาติของอาจารย์ที่ผมต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีกจนต้องเป็นฝ่ายจูบเขาเองเมื่อเขาผละออกไปเพื่อเว้นจังหวะให้ผมหายใจ
อาจารย์ชานยอล... รสชาติดีชะมัด...
สะโพกของผมเคลื่อนไปมาบนหน้าตักของเขา
จงใจกดมันลงบนความเป็นชายที่แข็งตัวอยู่ใต้กางเกงจนรู้สึกได้
ผมจงใจบดมันและขยี้ให้ความต้องการของเขามันเกินขีดจำกัดที่จะควบคุมได้
ผมต้องการให้ใครบางคนสติแตกจนเดินเข้ามากระชากเราออกจากกัน
แต่อีกใจหนึ่งผมกลับต้องการให้สัมผัสในตอนนี้ยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ
เรายอมผละออกจากกันเมื่อต่างฝ่ายต่างก็ใกล้หมดลมหายใจที่เราช่วงชิงกันไปมา
ผมก้มหน้าลง ซุกลงกับแผงอกกว้างของเขา “เขา... เขาไม่มา...”
“ผมรู้...”
“แต่เขายังอยู่ตรงนั้นใช่มั้ยครับ”
“อืม...
ไม่ได้หนีไปไหนเลย”
“เหอะ”
ผมพ่นลมหายใจออกมาพลางหลับตาลงระงับความรู้สึกของตัวเองที่ทั้งผิดหวังและต้องการ...
ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรต่อทั้งนั้นจึงลุกออกจากตักของอาจารย์ชานยอลแล้วดึงเก้าอี้มาใกล้ๆ
กับเขา อาจารย์รู้หน้าที่ดี...
เขาสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาต่อเมื่อเราหยุดพักความต้องการเอาไว้เพียงเท่านั้น
เขาคงรู้ว่าผมเองก็หมดอารมณ์ไปแล้ว
“ผมเลี้ยงคุณเอง” เขาวางแบงค์ห้าหมื่นวอนไว้บนโต๊ะหนึ่งใบ
และทับมันด้วยแก้วช็อตที่บาร์เทนเดอร์เอามาวางไว้ให้ “ทำตามหน้าที่สิ”
“หนึ่งช็อตต่อหนึ่งใบเหรอครับ”
“กี่ใบก็ได้ ที่คุณไหว”
“ฮ่ะ... วันนี้คุณได้กลับบ้านกระเป๋าตังค์เปล่าแน่อาจารย์”
ผมหัวเราะราวกับตอนนี้กำลังอารมณ์ดีมากจนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตลก
ผมยกแก้วช็อตขึ้นมาแล้วดื่มรวดเดียวจนหมด
ความร้อนของมันแผดเผาลำคอของผมแต่ก็ทนเก็บอาการเอาไว้ไม่ให้ออกมาทางสีหน้า
ไม่งั้นผมคงดูอ่อนหัดไปทันที ผมหันไปยิ้มให้เขา
ยกแก้วที่ว่างเปล่าขึ้นตรงหน้าแล้วคว่ำแก้วลงให้เขาเห็นว่ามันเหลือเพียงความว่างเปล่า
อาจารย์ชานยอลหัวเราะเบาๆ ในลำคอและสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายอย่างจนวางเรียงรายเป็นแถวอยู่ตั้งแต่หน้าเขายาวไปถึงสุดช่วงแขนของผมและใต้แก้วช็อตทุกใบก็มีแบงค์ห้าหมื่นวอนวางไว้เช่นเดิม
เขาจงใจสั่งเครื่องดื่มทุกชนิดตรงหน้านี้มาให้ผมดื่มโดยแท้
แต่ในมือเขากลับมีเพียงสแนควีนอม ( Snake venom ) เพียงขวดเดียวเท่านั้น
เอาเถอะ
เบียร์ในมือของเขาชนะขาดรอยถ้าเทียบกับค็อกเทลทั้งหมดที่วางเรียงรายตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถว
เพราะเห็นว่าขวดมันสวยดีผมถึงได้เคยลองถามบาร์เทนเดอร์ดูว่ามันคืออะไรและได้รู้ว่ามันเป็นเบียร์นำเข้าจากอังกฤษมีระดับแอลกอฮอล์สูงที่สุดในโลกถึง
67.5%
บอกตรงๆ ถ้าเป็นผมครึ่งขวดก็ขอลาขาด...
อาจารย์ชานยอลยื่นมันมาหาผม และผมเองก็ยื่นแก้วช็อตไปหาเขา
ขวดเบียร์ของเขากับแก้วช็อตของผมกระทบกันเป็นอันเปิดศึกแห่งศักดิ์ศรี
“ถ้าคุณเมา... ผมจะไม่ปราณีคุณเลยแบคฮยอน...”
#เรื่องนี้ผมสอน
“ห้าแสนห้าหมื่นวอนของโผมมม ฮ่าๆ”
ผมหัวเราะร่วนพลางโบกสะบัดแบงค์ห้าหมื่นวอนจำนวน
11 ใบในมืออย่างคนมีความสุข ผมพยายามกระเดือกช็อตที่ 11
ลงคอจนสำเร็จถึงแม้ว่าตอนนั้นจะรู้ตัวเองดีว่าเริ่มเห็นอาจารย์ชานยอลเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีสี่หัวแล้วก็ตาม
แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ เงินจำนวน 550,000 วอนใช่ว่าจะหาง่ายๆ
ภายในคืนเดียวเสียที่ไหนกันล่ะ
อาจารย์ชานยอลเองก็มีสภาพไม่ค่อยต่างกันนักเมื่อเขาเล่นกินเบียร์ชนิดที่ว่าล้างผลาญ
เขากินไปครึ่งต่อครึ่ง ผมกิน 11 ช็อต ส่วนเขากินไป 5 ขวด...
พระเจ้า คอเขามันทำมาจากเหล็กไหลหรือไงผมอยากจะรู้นัก
แต่มีอย่างหนึ่งที่ต่างกันคือเขาเมาแล้วโคตรจะเงียบขรึมส่วนผมก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังชนิดที่ว่าเห็นมดตกโต๊ะผมยังหัวเราะ
ผมเมาแล้วอารมณ์ดีคูณสี่ แต่ลึกๆ ก็รู้สันดานตัวเองดีว่าถ้าเมาจนแทบขาดสติแล้วจะมีความรู้สึกยังไงตามมาด้วย
ผมเดินโซซัดโซเซออกมาจากบาร์โฮสต์กับอาจารย์ที่กำลังเดินพาผมไปที่รถของเขา
ถึงแม้ว่าเสียงเพลงภายในบาร์จะดังออกมาถึงข้างนอก
แต่ประสาทการรับรู้ของผมก็ช่างทำงานได้ดีจนได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่เดินตามเรามาติดๆ
ก่อนที่จะอยู่ในระยะประชิดและกระชากแขนผมเอาไว้จนเซถลา
เขาคนนั้นไม่ใช่เซฮุน
แต่เป็นพี่ลู่หาน...
“ผมไม่อนุญาตให้คุณพาแบคฮยอนไป” พี่ลู่หานพูดเสียงนิ่งเรียบเหมือนอย่างทุกครั้งที่มีลูกค้าผู้ชายเข้ามาเกาะแกะผมจนเกินไป
แต่หนนี้คนที่ผมจะไปด้วยเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เป็นอาจารย์ของผมนี่...
ถ้าผมจะไปด้วยก็คงไม่มีเหตุผลอะไรมาขัดได้มากนักหรอกในเมื่อเขาเป็นอาจารย์ของผมและเขาก็กำลังจะพาผมขึ้นรถไปต่อหน้าต่อหน้าเซฮุนที่ยืนพิงเสาสูบบุหรี่อยู่หน้าประตูในตอนนี้
“พี่ลู่หาน... นี่อาจารย์ของผมเอง อึก! เดี๋ยวเขาไปส่งผมที่ห้องครับ”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งนายเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรครับ
หอเขาเป็นทางผ่านพอดี” อาจารย์ชานยอลเสนอขึ้นมา
และพี่ลู่หานก็ทำการแสกนเขาผ่านทางสายตาทันที
โชคดีนักที่อาจารย์ไม่ได้แต่งตัวมาในลุคแบดบอยหรือป๋าจ๋าที่ใส่เสื้อลายดอกแล้วมีพุงห้อย
แต่เขามาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็คที่เหมือนแค่ถอดเสื้อสูทออกหลังจากเลิกสอนแค่นั้น
ด้วยความที่เขาไม่ได้แสดงอาการใดๆ
ออกมาให้น่าหวาดระแวงหรือไม่น่าไว้ใจพี่ลู่หานจึงถอนหายใจออกมาและเคาะศีรษะผมไปที
“เจ้าตัวแสบเอ้ย เมาจนไม่รู้เรื่องรู้ราว...
ถ้ายังไงผมฝากอาจารย์ดูแลให้ด้วยนะครับ”
“ครับ”
อาจารย์ชานยอลรับปากและประคองผมไปขึ้นรถของเขา
เขาให้ผมไปนอนที่เบาะด้านหลังแล้วที่จัดท่านอนเหยียดยาวของผมจนเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปขึ้นทางฝั่งคนขับ
รถของเขาเคลื่อนตัวออกจากที่ทำงานของผมสู่ท้องถนน...
ผมรู้อยู่แก่ใจว่าเขาคงไม่พาผมไปส่งที่หอแน่ๆ
แต่ผมก็ไม่มีปัญญาจะดื้อรั้นอะไรจึงได้แต่นอนมองเงินในมือไปพลางๆ
แล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
แต่ความคิดของคนเมามันจะมีสักกี่เรื่องให้ได้คิดกันล่ะ...
ผมเอาแต่คิดถึงฉากเร่าร้อนของเราหลายครั้งที่เกือบจะเลยเถิด
เห็นแต่ภาพของเขาจูบกับผมวนลูปอยู่แบบนั้นจนรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างของตัวเองที่ตื่นตัวขึ้น
ผมยันตัวเองขึ้นเล็กน้อยแล้วมองมันที่กำลังแข็งตัวจนตั้งขึ้นเพราะมีอารมณ์
หากผมจะขอให้อาจารย์เป็นเมียชั่วคราวของผมเขาก็คงไม่ยินยอมแน่ๆ
ใช่มั้ย...
ผมพยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความทุลักทุเลเพราะรถที่กำลังหักเข้าทางโค้ง
เมื่อนั่งสำเร็จผมก็เสนอหน้าผ่านระหว่างกลางเบาะไปหาเขาที่กำลังใช้สมาธิในการขับรถให้ตรงแม้จะมีเอนเอียงไปบ้างตามประสาคนเมาก็ตาม
“อาจารย์... อาจารย์ครับ...”
“ลุกขึ้นมาทำไม”
“อาจารย์...
ผมเมาอ่ะ...”
“ผมรู้แล้ว”
“ผมมีอารมณ์อ่ะอาจารย์
ทำให้ผมหน่อย”
“หืม...
คุณจะให้ผมทำอะไร ?”
เขาเอนศีรษะมาหาผมที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
เขา ผมจงใจเป่าลมร้อนๆ ใส่ข้างหูของเขา วางมือลงบนขาของเขาที่กำลังแตะเบรกรถเมื่อผมเริ่มจะทำลายสมาธิของเขา
จงใจลูบไล้มันเบาๆ จนเกือบจะถึงช่วงนั้นของเขาที่แข็งตัวไม่ต่างกันนัก
“มันใหญ่จัง...”
“ไปนั่งเฉยๆ น่า
ผมขับรถอยู่”
“อาจารย์ทำให้ผมหน่อยสิครับ...
นะ...”
“แบคฮยอน...”
ผมถอนมือออกมาจากเขาแล้วจัดการรูดซิปกางเกงของตัวเองลงเมื่อจะถอดมันไปให้พ้นๆ
ทาง ผมรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร ไม่มีคนเมาที่ไหนจะเมาจนขาดสติ
เมาจนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
แต่แค่ความกระดากอายกับการยั้งคิดมันจะทำงานช้ากว่าปกติแค่นั้นเอง
อย่างเช่นตอนนี้ที่ผมจัดการตัวเองจนเหลือแค่เสื้อเชิ้ตเพียงตัวเดียวบนร่างกาย
ใช่... แค่ตัวเดียว เพราะแม้แต่กางเกงในผมก็ถอดมันออกแล้วโยนไปข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว
“ให้ตายเถอะ... คุณมันตัวแสบ”
“หาที่จอดเร็วสิอาจารย์
ฮ่าๆ” ผมหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางหัวเสียของเขาเมื่อกางเกงในมันดันไปจบชีวิตลงที่พวงมาลัยพอดิบพอดี
ผมเอนตัวพิงเบาะ จับส่วนที่ตั้งชันของตัวเองแล้วรูดรั้งขึ้นลงด้วยมือของผม
จินตนาการถึงเซ็กส์ของผมกับลูกค้าสาวสวยที่เคยมาใช้บริการ
“อา...” ผมปล่อยเสียงครางอย่างลืมตัว
ทำเหมือนกำลังหายใจอยู่คนเดียวบนรถคันนี้ที่กำลังขับไปนอกเส้นทางและเป็นทางเปลี่ยว
ผมยกขาทั้งสองข้างขึ้นชันบนเบาะยาว
ขยับมือขึ้นลงอย่างรวดเร็วด้วยความซ่านเสียวกับสัมผัสของตัวเองและจินตนาการที่แสนหรรษา
ทว่ากลับมีใครบางคนมาหยุดมันเอาไว้ด้วยการกระชากขาของผมลงจากเบาะเมื่อรถจอดสนิทตรงที่ไหนสักแห่งที่มืดสนิท
เห็นเพียงแต่ต้นไม้ และพงหญ้าลึกจากแสงไฟหน้ารถที่สาดส่อง
ผมหัวเราะคิกคักเมื่อลืมตาขึ้นแล้วเห็นสีหน้าตึงเครียดของอาจารย์ชานยอล
“มานี่” เขาสั่งเสียงเข้มและผมก็ไม่รอช้าที่จะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างนักศึกษาผู้ภักดิ์ดี
ผมปีนไปหาเขาที่เบาะหน้า
จัดการขึ้นคร่อมเขาที่กำลังปรับเบาะให้เอนลงนอนมากกว่าเดิมเพื่อไม่ให้ศีรษะของผมกระแทกด้านบน
เขาไม่รีรอที่จะบีบคั้นสะโพกของผมอย่างแรงเพราะหมั่นเขี้ยวกับความแสบของผมที่ทำให้เขาแทบสติแตกกับภาพที่ผมกำลังช่วยตัวเองจากด้านหลัง
ผมคงเซ็กซี่เป็นบ้าในสภาพเสื้อเชิ้ตตัวเดียวกับเนื้อตัวที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์โดยแท้
“คุณยั่วผมหรือไง”
“ไม่...
ผมแค่อยากให้อาจารย์ช่วยผม...”
“คุณทำให้ผมมีอารมณ์”
เขาใช้มือของเขารั้งศีรษะเข้าไปหา
บีบบังคับให้ริมฝีปากผมกดลงบนปากเขา และผมที่กำลังมีอารมณ์ไม่ต่างกันก็ไม่รอเลยที่จะสอดลิ้นเข้าไปก่อน
ผมใช้ลิ้นปลุกเร้าเขาให้ตื่นตัว มอบความหวานที่เขาชอบนักชอบหนาผ่านทางลิ้นของผม
จงใจที่จะลากลิ้นออกมาที่ขอบปากของเขาจนของเหลวสีใสเปื้อนอยู่ตรงนั้น
และผมก็ทำความสะอาดให้เขาเองด้วยการเลียมันออกไป
“คุณ...” อาจารย์ชานยอลพูดได้เพียงแค่นั้นเมื่อผมปิดปากเขาด้วยการจูบอีกครั้ง
มือของผมวุ่นวายกับกระดุมเสื้อของเขา พยายามจะปลดมันออกในสภาพดี
แต่ด้วยความเมาและความต้องการมันประสานกันมันทำให้การปลดกระดุมกลายเป็นเรื่องยากจนน่าหงุดหงิด
ผมจึงกระชากมันออกจากกันทันทีเพื่อตัดปัญหา
ผมจงใจเคลื่อนสะโพกบดขยี้ความเป็นชายของเขาอีกครั้ง
ของเขามันแข็งมากกว่าตอนที่อยู่ในร้านเป็นเท่าตัว
และเมื่อผมสัมผัสได้ผมก็ยิ่งกระสันอยากให้เขาช่วยผมสักที...
“อาจารย์...” ผมถอนจูบออกมา
แม้จะต้องการมากถึงเพียงใดแต่ผมก็ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่ากับผู้ชาย
ครั้นจะให้เขาใช้แค่มือช่วยผมก็ดูเหมือนจะไม่สะอกสะใจอะไรเท่าไหร่ “ผมไม่เคย...”
“มันจะเจ็บมาก...”
“คุณทำให้ผมกลัว”
“แต่ถ้ามันเข้าไปในตัวคุณได้เมื่อไหร่...”
เขาพูดเสียงแผ่ว กดศีรษะของผมเข้าหาเขาและจับมือของผมให้ลงไปจัดการกับกางเกงของเขาที่มันกำลังทำให้เขาอึดอัดเหลือเกินในตอนนี้
“มันจะคุ้มค่ากับการที่คุณยอมเจ็บตัว”
“ผมจะเสร็จหรือเปล่า ?”
“กี่รอบก็ตามแต่ใจคุณเลย”
“อะ... อาจารย์...
ใจเย็นสิ” ผมบอกเสียงสั่นเมื่อเขายกสะโพกตัวเองขึ้นเพื่อจะถอดกางเกงพร้อมกางเกงในของเขาให้ไปกองอยู่ที่ข้อเท้าจนผมรู้สึกได้ว่าสะโพกของตัวเองกำลังทับอยู่บนท่อนเนื้อแข็งตัว
ผมขนลุกชัน
ความปรารถนาของตัวเองเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเขาจับมันแล้วนำส่วนหัวมาจ่อที่ช่องทางด้านหลังของผม
“โทษที แต่ผมไม่มีอารมณ์จะมาเล้าโลมอะไรแล้ว”
“อ๊ะ... เดี๋ยวๆ”
ผมร้องเสียงหลงเมื่อเขาถุยน้ำลายลงบนมือตัวเองแล้วนำมันมาป้ายที่ส่วนนั้นของผม
มันไม่ต่างอะไรจากตอนที่ผมใช้มันแทนเจลหล่อลื่นเมื่อต้องมีอะไรกับผู้หญิง
และผมก็ได้รับรู้ว่าแค่ความเปียกแฉะเล็กๆ น้อยๆ นี้มันก็เสียววาบไปถึงท้องน้อง
“ค่อยๆ กดตัวลงมา”
เขาจับเอวของผมแล้วยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายของผมจะรับความแข็งขืนของเขาได้
ผมเห็นว่าเขาไม่ต้องใช้มือจับมันให้ตั้งขึ้นเลยด้วยซ้ำ
แต่มันก็แข็งตัวเพื่อรอรับความอุ่นร้อนภายในตัวของผมได้เป็นอย่างดี เขาค่อยๆ
กดตัวผมลงโดยไม่สนสีหน้าเหยเกเพราะความเจ็บของผม เขาทำอย่างที่ตัวเองพูด
นั่นคือไม่มีการเล้าโลมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีแม้แต่จะใช้นิ้วเปิดทางให้เลยด้วยซ้ำ
มันไม่เห็นเป็นอย่างที่ผมเคยดูในหนังเกย์เลยสักนิด!
อาจารย์ชานยอลเองก็ช่วยตัวเองเต็มที่ด้วยการพยายามสวนสะโพกเข้าหาเมื่อส่วนหัวของเขาเข้ามาด้านในได้สำเร็จ
ผมรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดของการเริ่มต้น
ผมรู้ดีว่าส่วนที่จะทำให้ผมเจ็บแทบบ้ามันเป็นแค่ส่วนหัว เมื่อเข้ามาได้มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรอีกที่เขาจะนำมาเข้ามาทั้งหมด
“อะ... อึก...”
ผมครางติดขัดเมื่อเขาเข้ามาได้จนแทบสุด
ร่างกายของผมไม่สามารถรองรับความใหญ่โตของเขาได้จนหมดจริงๆ
มันเกินกว่าที่ร่างกายของผมจะทนไหว
และดูเหมือนว่าอาจารย์เองก็คงจะเจ็บไม่ใช่น้อยถึงได้หยุดไว้เพียงแค่นั้น
“กัดฟันไว้เด็กดี...”
เขาพูดเพียงแค่นั้นและเด้งสะโพกขึ้นสวนกับผมที่เขาจับให้ร่อนเอวลงมาพอดิบพอดี
“อ๊า!! มัน... อึก! มันเจ็บ...”
ผมครวญครางเสียงสั่น
จิกเล็บทั้งสิบลงบนแผ่นหลังของเขา
ผมแทบจะนึกคำพูดไม่ออกเมื่อมันถูกดึงออกไปจนเกือบหลุดแล้วกระแทกเข้ามาใหม่อีกครั้ง
ผมกัดฟันอย่างที่เขาบอกเมื่อเขาไม่ได้ฟังเสียงพูดของผมอีก เขามันเอาแต่ใจตัวพ่อ
ตะกละตะกลามแต่จะเข้ามาอย่างไม่ยั้งแรงจนอาจจะลืมไปว่านี่เป็นครั้งแรกของผม
มันไม่ได้หวานซึ้งอะไรสักนิด
มันไม่เหมือนหนังเกย์ที่ผมดู มันไม่เหมือนนิยายที่พระเอกจะจูบเพื่อปลอบประโลม
เขาไม่ทำอะไรทั้งนั้นนอกจากกดหัวผมลงบนไหล่ของเขาแล้วยัดเหยียดของตัวเองเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ
มันไม่แปลกเลยกับความฝืดที่ทำให้ผมเจ็บ
ร่างกายของผมไม่เหมือนกับผู้หญิงที่จะมีน้ำออกมาหล่อลื่น
และอาจารย์ก็คงรู้ดีเขาถึงได้ใส่เข้ามาไม่ยั้ง มันแรงและถี่กระชั้นจนผมหัวสั่นหัวคลอน
เขาใช้มือรูดรั้งของผมไปด้วยเพื่อให้ผมเสร็จสมตามที่หวังก่อนที่จะถอนตัวออกไปเพื่อใช้น้ำรักของผมแทนเจลหล่อลื่นที่ไม่มีอยู่บนรถในเวลานี้
เขาเคลือบมันลงบนความใหญ่โตของเขาแล้วสอดแทรกมันเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งมันได้ผล...
ผมไม่เจ็บเท่าครั้งแรกที่เขาเอามันเข้ามา
“อะ... อาจารย์... จูบผมที... อื้ม...”
เขาทำตามที่ขออย่างไม่บกพร่อง
เราประกบปากแนบสนิทและเขาก็กำลังจับเอวของผมให้เคลื่อนไปมาบนตัวเขา
บดขยี้ความเป็นชายของเขาที่อยู่ในตัวจนผมสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตทั้งหมดที่กำลังเคลื่อนอยู่ในร่างกายของผมอีกครั้ง
เขาถอนปากออกไป สั่งผมเสียงแหบสั่นอย่างที่ผมไม่เคยได้ยิน
แต่มันดูเซ็กซี่จนผมอยากจะทำตัวตะกละกับเขาบ้าง
“ร่อนเอวสิเด็กดี... ทำมัน... บนตัวของผม”
ผมปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
ร่อนเอวไปมาอย่างที่เขาเคยจับเอวของผมไว้แล้วสอนให้ทำเมื่อก่อนหน้านี้
แต่ครั้งนี้คือเขากำลังใช้มือของเขาในการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของผมออกไปบ้าง
ผมสบตากับเขาอย่างขลาดอาย
นัยน์ตาของเขายังคงมีอิทธิพลกับผมเสมอและมันก็ยิ่งทำให้ผมต้องการเขามากยิ่งขึ้น...
รัตติกาลที่เคยมืดมิดของเขาตอนนี้กำลังสะท้อนเงาของผมแต่เพียงผู้เดียว...
ผมวางมือลงบนก้อนเนื้อเรียงตัวสวยงามที่เขาคงจะดูแลมันมาเป็นอย่างดีถึงได้มีสุขภาพและสมรรถภาพที่สมบูรณ์แบบนี้
จังหวะเดิมๆ
ของผมแปรเปลี่ยนเมื่อผมรู้สึกได้ว่าสมองของตัวเองกำลังพร่าเบลอ ผมกดตัวลงยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาลุกขึ้นมานั่งหลังตรงแล้วกอดผมเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกสวนอีกครั้งเพื่อให้ร่างกายของผมรับความเป็นชายของเขาเข้ามาจนหมดดุ้น
ผมเผยอปากคราง ปล่อยเสียงน่าอายออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บจนจุก
เขาพยายามฝืนให้ร่างกายของผมรับมันเข้ามาจนสุด
แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าเมื่อปรับตัวได้มันก็รู้สึกดีจนแทบบ้า
“ปล่อยออกมาสิเด็กดี...”
“อะ... อึก... อ๊ะ...
อาจารย์! อาจารย์!!”
“เด็กดี... อา...
เด็กดีของผม...”
เสียงแหบทุ้มของเขาครางอยู่ข้างหูพร้อมกับความถี่รัวที่ทำให้ผมเห็นแสงดาวทอประกายวิบวับตรงหน้า
ผมยื่นมือไขว่คว้าก่อนที่จะมันพุ่งเข้ามาจนเห็นแสงสว่างสีขาวโพลน
ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ฉีดอัดเข้ามาในร่างกาย
และสัมผัสได้ถึงของเหลวของตัวเองที่ถูกปลดปล่อยออกมาจนเลอะตามเนื้อตัวของอาจารย์ชานยอลเช่นเดียวกัน
“แฮ่ก...”
ผมหอบครางเมื่อถึงฝั่ง เขาทิ้งตัวลงนอนบนเบาะให้ผมได้นอนบนตัวของเขา
ผมสอดแขนเข้าโอบรอบคอของเขาเอาไว้และหลับตาลง
รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะนอนเสียตรงนี้เมื่อสิ้นแรง
ทว่าสิ่งที่ยังเชื่อมอยู่ในตัวของผมมันกลับไม่ยอมอ่อนตัวลงเลยสักนิดถึงแม้จะปลดปล่อยออกมาแล้วก็ตามที
“ฮ่ะๆ” ผมหัวเราะอ่อนแรงเมื่ออาจารย์ชานยอลบีบคลึงอยู่กับสะโพกของผมอีกครั้ง
“อาจารย์หื่นอ่ะ”
“เพราะคุณนั่นแหละ”
“ผมอยากนอนแล้ว”
“เด็กดี...” เขาย้ายมือมาลูบศีรษะผมอย่างรักใคร่เอ็นดู “คุณพักเถอะ...”
“อา...”
“ถึงห้องแล้วผมจะปลุกคุณเอง”
200%
กลับไปเม้นกันที่เว็บแล้วก็สกรีมแท๊ก
#เรื่องนี้ผมสอน กันด้วยน๊า
ไม่งั้นงอนจริงด้วย แงงงง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น