วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

LET ME TEACH บทเรียนที่ 7 : "เด็กดีของผม..."


          ขอให้อาจารย์ชานยอลเสพสุขกับนักศึกษาของตัวเองให้เต็มที่นะครับ
          คำพูดของเขา... เซฮุนที่ยืนฉีกยิ้มอยู่ตรงหน้าผมกับอาจารย์ทำให้ผมอยากจะลุกขึ้นแล้วเดินไปจากสถานการณ์บ้าๆ แบบนี้ หากแต่เมื่อผมพยายามจะแกะมือออก อาจารย์ชานยอลกลับยิ่งรัดตัวผมมากกว่าเดิมจนแผ่นหลังของผมชนกับแผงอกกว้าง ผมหันไปมองเสี้ยวหน้าเขาเพราะต้องการจะเอาเรื่องแต่เมื่อเห็นแววตานิ่งสนิทที่เขาใช้จ้องกลับเซฮุนมันทำให้ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่
            ไม่รู้ว่าเซฮุนหรืออาจารย์ที่จะปะทุก่อนกันแน่...
            ต่อให้คุณไม่พูด ผมก็ตั้งใจจะทำอยู่แล้ว อาจารย์พูดเสียงเรียบ หากแต่มือของเขากลับกำมือผมเอาไว้แน่น เชิญสิ... ผมไม่ได้ต้องการให้คุณมาเสนอหน้าอยู่ตรงนี้หรอกนะ
            เมื่ออาจารย์ชานยอลพูดจบเซฮุนก็แค่นยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกไปจนหายลับไปจากสายตาของผม... แย่ชะมัด เราไม่ควรจะมาทะเลาะกันหลังจากที่เพิ่งสารภาพรักกันสิ หากสมหวังก็ควรยิ้มสุขสม หากว่าโศกเศร้าก็ไม่ควรลงเอยด้วยการแตกหักแบบนี้ไม่ใช่หรือไง หรืออย่างน้อยเราก็ควรให้เวลากันและกันเพื่อจะได้ปรับตัวมาเป็นอย่างเดิมได้ ไม่ใช่แบบนี้... มันไม่ควรจะจบลงแบบนี้...
            ผมแกะมือปลาหมึกของอาจารย์หนุ่มออกไปได้เมื่อเซฮุนเดินออกไปแล้ว เหมือนเขาเองก็จงใจจะคลายมันออก
            อาจารย์ทำแบบนี้ทำไม !?”
            ผมทำอะไรผิดล่ะแบคฮยอน...เขาพูดและหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ที่เดินมาทางเราพอดี น้ำเปล่ากับมอสโกมิวล์ครับ
            ผมกำลังจะเดินหนีเขาไปได้อยู่แล้ว!”
            เดินหนีไปหลังจากที่เขาพูดจาดูถูกคุณไว้งั้นเหรอ ?”
            ...
            คุณไม่คิดจะปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองเลยหรือไง ?”
            ที่เซฮุนพูด... มันก็ถูกไม่ใช่เหรอครับ ?”
            ...
            ผมไปห้องคุณ อยู่กับคุณ เกิดเรื่องบ้าๆ จนแม้แต่คุณเองก็ยังดูถูกผม แถมยังจูบกันโดยที่ผมก็ไม่ได้ขัดขืน... ทั้งๆ ที่ผมเป็นลูกศิษย์ของคุณ
            ผมพูดและย้ายก้นไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ เขาเพื่อจะได้ไม่ต้องยืนจนเมื่อยเพราะผมคิดว่าเราคงได้คุยกันอีกยาว การที่เขามาบาร์โฮสต์และตรงดิ่งมาหาขนาดนี้ผมก็มั่นใจแล้วล่ะว่าคืนนี้เขาคงตั้งใจจะมาหาผมมากกว่าหาเด็กโฮสต์คนอื่นแน่ๆ
            อาจารย์ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นวางบนบาร์ เขาประสานมือกันไว้ใต้คางแล้วหันมามองทางผมที่นั่งหมุนเก้าอี้ไปหาเขาเข้าพอดี
            คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าแบคฮยอน...อาจารย์เอ่ยพลางยกแก้วทรงสูงที่บรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีขาวข้นที่เขาสั่งมาเมื่อสักครู่แล้วส่งแก้วน้ำเปล่ามาให้กับผม ผมรู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนที่มีความคิดเด็กน้อยอย่างใครหลายๆ คน หรือพยายามทำตัวใสซื่อหรอกนะ
            ...
            ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวแบบนี้กับนักศึกษาของตัวเอง
            อาจารย์จะบอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นงั้นเหรอครับ
            คุณคิดว่าไง... เขาดื่มอีกครั้งจนมันเหลือเพียงครึ่งแก้วและวางลงกับโต๊ะ เด็กดี... มีอะไรที่ผมต้องอธิบายเพิ่มเติมอีกงั้นหรือ ?”
            ปลายนิ้วของเขาวางบนขอบแก้ว... ผมมองเห็นมันด้วยหางตาและกลับมาสบตากับเขาอีกครั้ง... เขาผู้เป็นเจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาล... เขาผู้ควบคุมสติสัมปชัญญะของผมได้โดยสิ้นเชิง... เขาแลบลิ้นออกเลียริมฝีปากตนเองก่อนที่จะยกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้ง และผมเห็นว่าของเหลวสีขาวนั่นเปื้อนที่ปลายคางของเขา
            โดยตั้งใจ...
            มานี่สิ... แบคฮยอน...
            อาจารย์...
            ทำความสะอาดให้ผมที
            ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนตักของเขา คล้องแขนไว้กับท้ายทอยของเขาและเอนเอียงใบหน้าให้ได้องศา... ใบหน้าของเราเคลื่อนเขาหากัน แต่ริมฝีปากของผมไม่ได้จบลงที่ปากเขา ผมแลบลิ้นเรียวเล็กออกมาและเลือกเลียตรงส่วนนั้น... ที่เปื้อนของเหลวสีขาวข้น ผมได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอและใบหน้าของผมก็เชิดขึ้นเมื่อมือหนาเชยคางผมขึ้นไป เขาบังคับให้ผมสบตากับเขาด้วยความร้อนที่พวยพุ่งอยู่ในความดำมืดในนัยน์ตาคู่นั้นที่ผมหลงไหลมันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เชยชม
            คุณไม่ได้เมาใช่มั้ย ?”
            ไม่... ผมยังไม่ได้ดื่ม... แต่กำลังจะดื่ม
            ผมถือวิสาสะยื่นมือไปคว้าแก้วแอลกอฮอล์ที่เหลือเพียงครึ่งมาดื่มต่อหน้าเขาและจงใจให้ของเหลวเหล่านั้นเอ่อล้นจากปากไหลลงมาเปรอะเปื้อนที่ช่วงลำคอและหน้าอกที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตที่ผมสวมมาทำงานวันนี้
            อา... หกหมดเลยทำแสร้งทำเสียดายพลางซ้อนตาขึ้นมองเขาที่จ้องมองผมตาไม่กระพริบ ทำความสะอาดให้บ้างสิครับอาจารย์... เลียให้ผมหน่อย
            หึ... เขาหัวเราะหึเบาๆ พอให้ผมได้ยินก่อนที่จะรั้งแผ่นหลังของผมให้แนบสนิทกับตัวเขา ใบหน้าคมคายที่ใครต่อใครต่างก็หลงใหลซุกลงกับซอกคอของผม หัวใจผมเต้นถี่รัวเมื่อลมหายใจอุ่นร้อนรินรดที่หลังใบหู เขาหอบหายใจแรงเสียใจผมตัวสั่น และส่วนแข็งขืนของเขาที่ทำให้ผมได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอย่างไม่ปิดบัง เขาพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ และกระซิบที่ข้างหู คุณรู้ว่าเขามองคุณอยู่
            ...
            ดื่มกับผมสิ แล้วผมจะพาคุณออกไป...        
            อาจารย์จะมอมผมเหรอ ?”
            เปล่า ผมให้คุณมอมตัวเอง
            เขาแลบลิ้นออกมาแล้วเลียทำความสะอาดแอลกอฮอล์ที่เปรอะเปื้อน เขาลากลิ้นยาวลงมาตั้งแต่หลังใบหูจนถึงแอ่งหลุมตรงกลางที่ช่วงล่างคอของผมทั้งที่สายตายังคงซ้อนมองอยู่ ผมหลับตาสนิทพลางปล่อยเสียงน่าอายออกมาเมื่อเขาบดขยี้ปลายลิ้นที่แอ่งหลุมนั้น เล็บผมจิกลงบนแขนของเขา ขนกายลุกชันโดยไม่ตั้งใจ
            อะ... อาจารย์...
            ผมเผยอปากหลุดเสียงน่าอายออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ลิ้นของเขาช่างทำความสะอาดได้ดีเหลือใจเมื่อมันไล้เลียไปตามตำแหน่งที่น้ำพวกนั้นไหลลงสู่ร่างกายของผม อา... อาจารย์ชานยอล...
            เขามองคุณอยู่...
            ทำให้มากกว่านี้สิครับ... อ๊ะ !”           
            คุณเสนอเองนะ
            ผมร้องอย่างตกใจเมื่อกำลังจะหงายหลัง แต่อาจารย์กลับคว้าเอาไว้และยกขาของผมขึ้นมาข้างหนึ่งเพื่อย้ายมันไปอีกฝั่งให้ผมนั่งคร่อมอยู่บนตักของเขา... มันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่เราจะจูบหรือทำอะไรกันที่ไม่เลยเถิดมากจนเกินไปในสถานที่แบบนี้ และอาจารย์ชานยอลก็คงรู้ดีเขาถึงได้รั้งใบหน้าของผมเข้าไปหาเขาและบดขยี้จูบมาอย่างร้อนแรง
            แขนแกร่งโอบรอบเอวผมเอาไว้ ดึงรั้งให้ร่างกายของเราแนบชิดพอๆ กับริมฝีปากของเราที่ประกบกันสนิทและเขาก็รุกล้ำเข้ามาในปากของผมด้วยลิ้นของเขา เป็นอีกครั้งที่เราสัมผัสกันด้วยเรียวลิ้นที่มีกลิ่นมอสโกมิวล์และรสชาติขมอมหวานของมันปะปนมาด้วย เราเชื่อมต่อกันด้วยสัมผัสร้อนชื้น ผมหลับตาสนิท... ภาพของเซฮุนเลือนหายไปจากสมอง สิ่งที่รู้สึกและรับรู้ได้มีเพียงสัมผัสของเขา กลิ่นของเขาและรสชาติของเขา... รสชาติของอาจารย์ที่ผมต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีกจนต้องเป็นฝ่ายจูบเขาเองเมื่อเขาผละออกไปเพื่อเว้นจังหวะให้ผมหายใจ
            อาจารย์ชานยอล... รสชาติดีชะมัด...
            สะโพกของผมเคลื่อนไปมาบนหน้าตักของเขา จงใจกดมันลงบนความเป็นชายที่แข็งตัวอยู่ใต้กางเกงจนรู้สึกได้ ผมจงใจบดมันและขยี้ให้ความต้องการของเขามันเกินขีดจำกัดที่จะควบคุมได้
            ผมต้องการให้ใครบางคนสติแตกจนเดินเข้ามากระชากเราออกจากกัน แต่อีกใจหนึ่งผมกลับต้องการให้สัมผัสในตอนนี้ยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ
            เรายอมผละออกจากกันเมื่อต่างฝ่ายต่างก็ใกล้หมดลมหายใจที่เราช่วงชิงกันไปมา ผมก้มหน้าลง ซุกลงกับแผงอกกว้างของเขา เขา... เขาไม่มา...
            ผมรู้...
            แต่เขายังอยู่ตรงนั้นใช่มั้ยครับ
            อืม... ไม่ได้หนีไปไหนเลย
            เหอะ ผมพ่นลมหายใจออกมาพลางหลับตาลงระงับความรู้สึกของตัวเองที่ทั้งผิดหวังและต้องการ... ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรต่อทั้งนั้นจึงลุกออกจากตักของอาจารย์ชานยอลแล้วดึงเก้าอี้มาใกล้ๆ กับเขา อาจารย์รู้หน้าที่ดี... เขาสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาต่อเมื่อเราหยุดพักความต้องการเอาไว้เพียงเท่านั้น เขาคงรู้ว่าผมเองก็หมดอารมณ์ไปแล้ว
            ผมเลี้ยงคุณเอง เขาวางแบงค์ห้าหมื่นวอนไว้บนโต๊ะหนึ่งใบ และทับมันด้วยแก้วช็อตที่บาร์เทนเดอร์เอามาวางไว้ให้ ทำตามหน้าที่สิ
            หนึ่งช็อตต่อหนึ่งใบเหรอครับ
            กี่ใบก็ได้ ที่คุณไหว
ฮ่ะ... วันนี้คุณได้กลับบ้านกระเป๋าตังค์เปล่าแน่อาจารย์
ผมหัวเราะราวกับตอนนี้กำลังอารมณ์ดีมากจนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตลก ผมยกแก้วช็อตขึ้นมาแล้วดื่มรวดเดียวจนหมด ความร้อนของมันแผดเผาลำคอของผมแต่ก็ทนเก็บอาการเอาไว้ไม่ให้ออกมาทางสีหน้า ไม่งั้นผมคงดูอ่อนหัดไปทันที ผมหันไปยิ้มให้เขา ยกแก้วที่ว่างเปล่าขึ้นตรงหน้าแล้วคว่ำแก้วลงให้เขาเห็นว่ามันเหลือเพียงความว่างเปล่า
อาจารย์ชานยอลหัวเราะเบาๆ ในลำคอและสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายอย่างจนวางเรียงรายเป็นแถวอยู่ตั้งแต่หน้าเขายาวไปถึงสุดช่วงแขนของผมและใต้แก้วช็อตทุกใบก็มีแบงค์ห้าหมื่นวอนวางไว้เช่นเดิม เขาจงใจสั่งเครื่องดื่มทุกชนิดตรงหน้านี้มาให้ผมดื่มโดยแท้ แต่ในมือเขากลับมีเพียงสแนควีนอม ( Snake venom ) เพียงขวดเดียวเท่านั้น
เอาเถอะ เบียร์ในมือของเขาชนะขาดรอยถ้าเทียบกับค็อกเทลทั้งหมดที่วางเรียงรายตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถว เพราะเห็นว่าขวดมันสวยดีผมถึงได้เคยลองถามบาร์เทนเดอร์ดูว่ามันคืออะไรและได้รู้ว่ามันเป็นเบียร์นำเข้าจากอังกฤษมีระดับแอลกอฮอล์สูงที่สุดในโลกถึง 67.5%
บอกตรงๆ ถ้าเป็นผมครึ่งขวดก็ขอลาขาด...
อาจารย์ชานยอลยื่นมันมาหาผม และผมเองก็ยื่นแก้วช็อตไปหาเขา ขวดเบียร์ของเขากับแก้วช็อตของผมกระทบกันเป็นอันเปิดศึกแห่งศักดิ์ศรี
ถ้าคุณเมา... ผมจะไม่ปราณีคุณเลยแบคฮยอน...




#เรื่องนี้ผมสอน

           


            ห้าแสนห้าหมื่นวอนของโผมมม ฮ่าๆ
            ผมหัวเราะร่วนพลางโบกสะบัดแบงค์ห้าหมื่นวอนจำนวน 11 ใบในมืออย่างคนมีความสุข ผมพยายามกระเดือกช็อตที่ 11 ลงคอจนสำเร็จถึงแม้ว่าตอนนั้นจะรู้ตัวเองดีว่าเริ่มเห็นอาจารย์ชานยอลเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีสี่หัวแล้วก็ตาม แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ เงินจำนวน 550,000 วอนใช่ว่าจะหาง่ายๆ ภายในคืนเดียวเสียที่ไหนกันล่ะ
            อาจารย์ชานยอลเองก็มีสภาพไม่ค่อยต่างกันนักเมื่อเขาเล่นกินเบียร์ชนิดที่ว่าล้างผลาญ เขากินไปครึ่งต่อครึ่ง ผมกิน 11 ช็อต ส่วนเขากินไป 5 ขวด... พระเจ้า คอเขามันทำมาจากเหล็กไหลหรือไงผมอยากจะรู้นัก แต่มีอย่างหนึ่งที่ต่างกันคือเขาเมาแล้วโคตรจะเงียบขรึมส่วนผมก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังชนิดที่ว่าเห็นมดตกโต๊ะผมยังหัวเราะ ผมเมาแล้วอารมณ์ดีคูณสี่ แต่ลึกๆ ก็รู้สันดานตัวเองดีว่าถ้าเมาจนแทบขาดสติแล้วจะมีความรู้สึกยังไงตามมาด้วย
            ผมเดินโซซัดโซเซออกมาจากบาร์โฮสต์กับอาจารย์ที่กำลังเดินพาผมไปที่รถของเขา ถึงแม้ว่าเสียงเพลงภายในบาร์จะดังออกมาถึงข้างนอก แต่ประสาทการรับรู้ของผมก็ช่างทำงานได้ดีจนได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่เดินตามเรามาติดๆ ก่อนที่จะอยู่ในระยะประชิดและกระชากแขนผมเอาไว้จนเซถลา
            เขาคนนั้นไม่ใช่เซฮุน แต่เป็นพี่ลู่หาน...
            ผมไม่อนุญาตให้คุณพาแบคฮยอนไปพี่ลู่หานพูดเสียงนิ่งเรียบเหมือนอย่างทุกครั้งที่มีลูกค้าผู้ชายเข้ามาเกาะแกะผมจนเกินไป แต่หนนี้คนที่ผมจะไปด้วยเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เป็นอาจารย์ของผมนี่... ถ้าผมจะไปด้วยก็คงไม่มีเหตุผลอะไรมาขัดได้มากนักหรอกในเมื่อเขาเป็นอาจารย์ของผมและเขาก็กำลังจะพาผมขึ้นรถไปต่อหน้าต่อหน้าเซฮุนที่ยืนพิงเสาสูบบุหรี่อยู่หน้าประตูในตอนนี้
            พี่ลู่หาน... นี่อาจารย์ของผมเอง อึก! เดี๋ยวเขาไปส่งผมที่ห้องครับ
            เดี๋ยวพี่ไปส่งนายเองก็ได้
            ไม่เป็นไรครับ หอเขาเป็นทางผ่านพอดี อาจารย์ชานยอลเสนอขึ้นมา และพี่ลู่หานก็ทำการแสกนเขาผ่านทางสายตาทันที โชคดีนักที่อาจารย์ไม่ได้แต่งตัวมาในลุคแบดบอยหรือป๋าจ๋าที่ใส่เสื้อลายดอกแล้วมีพุงห้อย แต่เขามาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็คที่เหมือนแค่ถอดเสื้อสูทออกหลังจากเลิกสอนแค่นั้น
            ด้วยความที่เขาไม่ได้แสดงอาการใดๆ ออกมาให้น่าหวาดระแวงหรือไม่น่าไว้ใจพี่ลู่หานจึงถอนหายใจออกมาและเคาะศีรษะผมไปที
            เจ้าตัวแสบเอ้ย เมาจนไม่รู้เรื่องรู้ราว... ถ้ายังไงผมฝากอาจารย์ดูแลให้ด้วยนะครับ
            ครับ
            อาจารย์ชานยอลรับปากและประคองผมไปขึ้นรถของเขา เขาให้ผมไปนอนที่เบาะด้านหลังแล้วที่จัดท่านอนเหยียดยาวของผมจนเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปขึ้นทางฝั่งคนขับ รถของเขาเคลื่อนตัวออกจากที่ทำงานของผมสู่ท้องถนน... ผมรู้อยู่แก่ใจว่าเขาคงไม่พาผมไปส่งที่หอแน่ๆ แต่ผมก็ไม่มีปัญญาจะดื้อรั้นอะไรจึงได้แต่นอนมองเงินในมือไปพลางๆ แล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
            แต่ความคิดของคนเมามันจะมีสักกี่เรื่องให้ได้คิดกันล่ะ...
            ผมเอาแต่คิดถึงฉากเร่าร้อนของเราหลายครั้งที่เกือบจะเลยเถิด เห็นแต่ภาพของเขาจูบกับผมวนลูปอยู่แบบนั้นจนรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างของตัวเองที่ตื่นตัวขึ้น ผมยันตัวเองขึ้นเล็กน้อยแล้วมองมันที่กำลังแข็งตัวจนตั้งขึ้นเพราะมีอารมณ์
            หากผมจะขอให้อาจารย์เป็นเมียชั่วคราวของผมเขาก็คงไม่ยินยอมแน่ๆ ใช่มั้ย...
            ผมพยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความทุลักทุเลเพราะรถที่กำลังหักเข้าทางโค้ง เมื่อนั่งสำเร็จผมก็เสนอหน้าผ่านระหว่างกลางเบาะไปหาเขาที่กำลังใช้สมาธิในการขับรถให้ตรงแม้จะมีเอนเอียงไปบ้างตามประสาคนเมาก็ตาม
            อาจารย์... อาจารย์ครับ...
            ลุกขึ้นมาทำไม
            อาจารย์... ผมเมาอ่ะ...
            ผมรู้แล้ว
            ผมมีอารมณ์อ่ะอาจารย์ ทำให้ผมหน่อย
            หืม... คุณจะให้ผมทำอะไร ?”
            เขาเอนศีรษะมาหาผมที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขา ผมจงใจเป่าลมร้อนๆ ใส่ข้างหูของเขา วางมือลงบนขาของเขาที่กำลังแตะเบรกรถเมื่อผมเริ่มจะทำลายสมาธิของเขา จงใจลูบไล้มันเบาๆ จนเกือบจะถึงช่วงนั้นของเขาที่แข็งตัวไม่ต่างกันนัก
            มันใหญ่จัง...
            ไปนั่งเฉยๆ น่า ผมขับรถอยู่
            อาจารย์ทำให้ผมหน่อยสิครับ... นะ...
            แบคฮยอน...
            ผมถอนมือออกมาจากเขาแล้วจัดการรูดซิปกางเกงของตัวเองลงเมื่อจะถอดมันไปให้พ้นๆ ทาง ผมรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร ไม่มีคนเมาที่ไหนจะเมาจนขาดสติ เมาจนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่แค่ความกระดากอายกับการยั้งคิดมันจะทำงานช้ากว่าปกติแค่นั้นเอง อย่างเช่นตอนนี้ที่ผมจัดการตัวเองจนเหลือแค่เสื้อเชิ้ตเพียงตัวเดียวบนร่างกาย
            ใช่... แค่ตัวเดียว เพราะแม้แต่กางเกงในผมก็ถอดมันออกแล้วโยนไปข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว
            ให้ตายเถอะ... คุณมันตัวแสบ
            หาที่จอดเร็วสิอาจารย์ ฮ่าๆ ผมหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางหัวเสียของเขาเมื่อกางเกงในมันดันไปจบชีวิตลงที่พวงมาลัยพอดิบพอดี ผมเอนตัวพิงเบาะ จับส่วนที่ตั้งชันของตัวเองแล้วรูดรั้งขึ้นลงด้วยมือของผม จินตนาการถึงเซ็กส์ของผมกับลูกค้าสาวสวยที่เคยมาใช้บริการ
            อา...ผมปล่อยเสียงครางอย่างลืมตัว ทำเหมือนกำลังหายใจอยู่คนเดียวบนรถคันนี้ที่กำลังขับไปนอกเส้นทางและเป็นทางเปลี่ยว
            ผมยกขาทั้งสองข้างขึ้นชันบนเบาะยาว ขยับมือขึ้นลงอย่างรวดเร็วด้วยความซ่านเสียวกับสัมผัสของตัวเองและจินตนาการที่แสนหรรษา ทว่ากลับมีใครบางคนมาหยุดมันเอาไว้ด้วยการกระชากขาของผมลงจากเบาะเมื่อรถจอดสนิทตรงที่ไหนสักแห่งที่มืดสนิท เห็นเพียงแต่ต้นไม้ และพงหญ้าลึกจากแสงไฟหน้ารถที่สาดส่อง
            ผมหัวเราะคิกคักเมื่อลืมตาขึ้นแล้วเห็นสีหน้าตึงเครียดของอาจารย์ชานยอล
            มานี่เขาสั่งเสียงเข้มและผมก็ไม่รอช้าที่จะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างนักศึกษาผู้ภักดิ์ดี
            ผมปีนไปหาเขาที่เบาะหน้า จัดการขึ้นคร่อมเขาที่กำลังปรับเบาะให้เอนลงนอนมากกว่าเดิมเพื่อไม่ให้ศีรษะของผมกระแทกด้านบน เขาไม่รีรอที่จะบีบคั้นสะโพกของผมอย่างแรงเพราะหมั่นเขี้ยวกับความแสบของผมที่ทำให้เขาแทบสติแตกกับภาพที่ผมกำลังช่วยตัวเองจากด้านหลัง
            ผมคงเซ็กซี่เป็นบ้าในสภาพเสื้อเชิ้ตตัวเดียวกับเนื้อตัวที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์โดยแท้
            คุณยั่วผมหรือไง
            ไม่... ผมแค่อยากให้อาจารย์ช่วยผม...
            คุณทำให้ผมมีอารมณ์เขาใช้มือของเขารั้งศีรษะเข้าไปหา บีบบังคับให้ริมฝีปากผมกดลงบนปากเขา และผมที่กำลังมีอารมณ์ไม่ต่างกันก็ไม่รอเลยที่จะสอดลิ้นเข้าไปก่อน ผมใช้ลิ้นปลุกเร้าเขาให้ตื่นตัว มอบความหวานที่เขาชอบนักชอบหนาผ่านทางลิ้นของผม จงใจที่จะลากลิ้นออกมาที่ขอบปากของเขาจนของเหลวสีใสเปื้อนอยู่ตรงนั้น และผมก็ทำความสะอาดให้เขาเองด้วยการเลียมันออกไป
            คุณ...อาจารย์ชานยอลพูดได้เพียงแค่นั้นเมื่อผมปิดปากเขาด้วยการจูบอีกครั้ง มือของผมวุ่นวายกับกระดุมเสื้อของเขา พยายามจะปลดมันออกในสภาพดี แต่ด้วยความเมาและความต้องการมันประสานกันมันทำให้การปลดกระดุมกลายเป็นเรื่องยากจนน่าหงุดหงิด ผมจึงกระชากมันออกจากกันทันทีเพื่อตัดปัญหา
            ผมจงใจเคลื่อนสะโพกบดขยี้ความเป็นชายของเขาอีกครั้ง ของเขามันแข็งมากกว่าตอนที่อยู่ในร้านเป็นเท่าตัว และเมื่อผมสัมผัสได้ผมก็ยิ่งกระสันอยากให้เขาช่วยผมสักที...
            อาจารย์... ผมถอนจูบออกมา แม้จะต้องการมากถึงเพียงใดแต่ผมก็ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่ากับผู้ชาย ครั้นจะให้เขาใช้แค่มือช่วยผมก็ดูเหมือนจะไม่สะอกสะใจอะไรเท่าไหร่ ผมไม่เคย...
            มันจะเจ็บมาก...
            คุณทำให้ผมกลัว
            แต่ถ้ามันเข้าไปในตัวคุณได้เมื่อไหร่...เขาพูดเสียงแผ่ว กดศีรษะของผมเข้าหาเขาและจับมือของผมให้ลงไปจัดการกับกางเกงของเขาที่มันกำลังทำให้เขาอึดอัดเหลือเกินในตอนนี้ มันจะคุ้มค่ากับการที่คุณยอมเจ็บตัว
            ผมจะเสร็จหรือเปล่า ?”
            กี่รอบก็ตามแต่ใจคุณเลย
            อะ... อาจารย์... ใจเย็นสิผมบอกเสียงสั่นเมื่อเขายกสะโพกตัวเองขึ้นเพื่อจะถอดกางเกงพร้อมกางเกงในของเขาให้ไปกองอยู่ที่ข้อเท้าจนผมรู้สึกได้ว่าสะโพกของตัวเองกำลังทับอยู่บนท่อนเนื้อแข็งตัว ผมขนลุกชัน ความปรารถนาของตัวเองเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเขาจับมันแล้วนำส่วนหัวมาจ่อที่ช่องทางด้านหลังของผม
            โทษที แต่ผมไม่มีอารมณ์จะมาเล้าโลมอะไรแล้ว
            อ๊ะ... เดี๋ยวๆผมร้องเสียงหลงเมื่อเขาถุยน้ำลายลงบนมือตัวเองแล้วนำมันมาป้ายที่ส่วนนั้นของผม มันไม่ต่างอะไรจากตอนที่ผมใช้มันแทนเจลหล่อลื่นเมื่อต้องมีอะไรกับผู้หญิง และผมก็ได้รับรู้ว่าแค่ความเปียกแฉะเล็กๆ น้อยๆ นี้มันก็เสียววาบไปถึงท้องน้อง
            ค่อยๆ กดตัวลงมา
            เขาจับเอวของผมแล้วยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายของผมจะรับความแข็งขืนของเขาได้ ผมเห็นว่าเขาไม่ต้องใช้มือจับมันให้ตั้งขึ้นเลยด้วยซ้ำ แต่มันก็แข็งตัวเพื่อรอรับความอุ่นร้อนภายในตัวของผมได้เป็นอย่างดี เขาค่อยๆ กดตัวผมลงโดยไม่สนสีหน้าเหยเกเพราะความเจ็บของผม เขาทำอย่างที่ตัวเองพูด นั่นคือไม่มีการเล้าโลมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีแม้แต่จะใช้นิ้วเปิดทางให้เลยด้วยซ้ำ มันไม่เห็นเป็นอย่างที่ผมเคยดูในหนังเกย์เลยสักนิด!
            อาจารย์ชานยอลเองก็ช่วยตัวเองเต็มที่ด้วยการพยายามสวนสะโพกเข้าหาเมื่อส่วนหัวของเขาเข้ามาด้านในได้สำเร็จ ผมรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดของการเริ่มต้น ผมรู้ดีว่าส่วนที่จะทำให้ผมเจ็บแทบบ้ามันเป็นแค่ส่วนหัว เมื่อเข้ามาได้มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรอีกที่เขาจะนำมาเข้ามาทั้งหมด
            อะ... อึก... ผมครางติดขัดเมื่อเขาเข้ามาได้จนแทบสุด ร่างกายของผมไม่สามารถรองรับความใหญ่โตของเขาได้จนหมดจริงๆ มันเกินกว่าที่ร่างกายของผมจะทนไหว และดูเหมือนว่าอาจารย์เองก็คงจะเจ็บไม่ใช่น้อยถึงได้หยุดไว้เพียงแค่นั้น
            กัดฟันไว้เด็กดี... เขาพูดเพียงแค่นั้นและเด้งสะโพกขึ้นสวนกับผมที่เขาจับให้ร่อนเอวลงมาพอดิบพอดี
            อ๊า!! มัน... อึก! มันเจ็บ...
            ผมครวญครางเสียงสั่น จิกเล็บทั้งสิบลงบนแผ่นหลังของเขา ผมแทบจะนึกคำพูดไม่ออกเมื่อมันถูกดึงออกไปจนเกือบหลุดแล้วกระแทกเข้ามาใหม่อีกครั้ง ผมกัดฟันอย่างที่เขาบอกเมื่อเขาไม่ได้ฟังเสียงพูดของผมอีก เขามันเอาแต่ใจตัวพ่อ ตะกละตะกลามแต่จะเข้ามาอย่างไม่ยั้งแรงจนอาจจะลืมไปว่านี่เป็นครั้งแรกของผม 
            มันไม่ได้หวานซึ้งอะไรสักนิด มันไม่เหมือนหนังเกย์ที่ผมดู มันไม่เหมือนนิยายที่พระเอกจะจูบเพื่อปลอบประโลม เขาไม่ทำอะไรทั้งนั้นนอกจากกดหัวผมลงบนไหล่ของเขาแล้วยัดเหยียดของตัวเองเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ
            มันไม่แปลกเลยกับความฝืดที่ทำให้ผมเจ็บ ร่างกายของผมไม่เหมือนกับผู้หญิงที่จะมีน้ำออกมาหล่อลื่น และอาจารย์ก็คงรู้ดีเขาถึงได้ใส่เข้ามาไม่ยั้ง มันแรงและถี่กระชั้นจนผมหัวสั่นหัวคลอน เขาใช้มือรูดรั้งของผมไปด้วยเพื่อให้ผมเสร็จสมตามที่หวังก่อนที่จะถอนตัวออกไปเพื่อใช้น้ำรักของผมแทนเจลหล่อลื่นที่ไม่มีอยู่บนรถในเวลานี้ เขาเคลือบมันลงบนความใหญ่โตของเขาแล้วสอดแทรกมันเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งมันได้ผล... ผมไม่เจ็บเท่าครั้งแรกที่เขาเอามันเข้ามา
            อะ... อาจารย์... จูบผมที... อื้ม...
            เขาทำตามที่ขออย่างไม่บกพร่อง เราประกบปากแนบสนิทและเขาก็กำลังจับเอวของผมให้เคลื่อนไปมาบนตัวเขา บดขยี้ความเป็นชายของเขาที่อยู่ในตัวจนผมสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตทั้งหมดที่กำลังเคลื่อนอยู่ในร่างกายของผมอีกครั้ง เขาถอนปากออกไป สั่งผมเสียงแหบสั่นอย่างที่ผมไม่เคยได้ยิน
            แต่มันดูเซ็กซี่จนผมอยากจะทำตัวตะกละกับเขาบ้าง
            ร่อนเอวสิเด็กดี... ทำมัน... บนตัวของผม
            ผมปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ร่อนเอวไปมาอย่างที่เขาเคยจับเอวของผมไว้แล้วสอนให้ทำเมื่อก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้คือเขากำลังใช้มือของเขาในการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของผมออกไปบ้าง
            ผมสบตากับเขาอย่างขลาดอาย นัยน์ตาของเขายังคงมีอิทธิพลกับผมเสมอและมันก็ยิ่งทำให้ผมต้องการเขามากยิ่งขึ้น... รัตติกาลที่เคยมืดมิดของเขาตอนนี้กำลังสะท้อนเงาของผมแต่เพียงผู้เดียว... ผมวางมือลงบนก้อนเนื้อเรียงตัวสวยงามที่เขาคงจะดูแลมันมาเป็นอย่างดีถึงได้มีสุขภาพและสมรรถภาพที่สมบูรณ์แบบนี้
            จังหวะเดิมๆ ของผมแปรเปลี่ยนเมื่อผมรู้สึกได้ว่าสมองของตัวเองกำลังพร่าเบลอ ผมกดตัวลงยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาลุกขึ้นมานั่งหลังตรงแล้วกอดผมเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกสวนอีกครั้งเพื่อให้ร่างกายของผมรับความเป็นชายของเขาเข้ามาจนหมดดุ้น ผมเผยอปากคราง ปล่อยเสียงน่าอายออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บจนจุก
            เขาพยายามฝืนให้ร่างกายของผมรับมันเข้ามาจนสุด แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าเมื่อปรับตัวได้มันก็รู้สึกดีจนแทบบ้า
            ปล่อยออกมาสิเด็กดี...
            อะ... อึก... อ๊ะ... อาจารย์! อาจารย์!!”
            เด็กดี... อา... เด็กดีของผม...
            เสียงแหบทุ้มของเขาครางอยู่ข้างหูพร้อมกับความถี่รัวที่ทำให้ผมเห็นแสงดาวทอประกายวิบวับตรงหน้า ผมยื่นมือไขว่คว้าก่อนที่จะมันพุ่งเข้ามาจนเห็นแสงสว่างสีขาวโพลน ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ฉีดอัดเข้ามาในร่างกาย และสัมผัสได้ถึงของเหลวของตัวเองที่ถูกปลดปล่อยออกมาจนเลอะตามเนื้อตัวของอาจารย์ชานยอลเช่นเดียวกัน
            แฮ่ก...
            ผมหอบครางเมื่อถึงฝั่ง เขาทิ้งตัวลงนอนบนเบาะให้ผมได้นอนบนตัวของเขา ผมสอดแขนเข้าโอบรอบคอของเขาเอาไว้และหลับตาลง รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะนอนเสียตรงนี้เมื่อสิ้นแรง ทว่าสิ่งที่ยังเชื่อมอยู่ในตัวของผมมันกลับไม่ยอมอ่อนตัวลงเลยสักนิดถึงแม้จะปลดปล่อยออกมาแล้วก็ตามที
            ฮ่ะๆ ผมหัวเราะอ่อนแรงเมื่ออาจารย์ชานยอลบีบคลึงอยู่กับสะโพกของผมอีกครั้ง อาจารย์หื่นอ่ะ
            เพราะคุณนั่นแหละ
            ผมอยากนอนแล้ว
            เด็กดี...เขาย้ายมือมาลูบศีรษะผมอย่างรักใคร่เอ็นดู คุณพักเถอะ...
            อา...
            ถึงห้องแล้วผมจะปลุกคุณเอง






200%


กลับไปเม้นกันที่เว็บแล้วก็สกรีมแท๊ก #เรื่องนี้ผมสอน กันด้วยน๊า ไม่งั้นงอนจริงด้วย แงงงง  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น