วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2561

LET ME TEACH บทเรียนที่ 9 : "ไม่ปล่อยให้ไป"


9

            เกือบสองอาทิตย์แล้วที่ผมไม่ได้พูดคุยอะไรกับอาจารย์ชานยอล...
            เขาไม่ได้หายไปไหน ผมยังเจอเขาทุกครั้งที่มาสอนในคลาสแต่เมื่อหมดเวลาสอนเขาก็จะเดินออกจากห้องไปทันที ไม่มีการเรียกให้ไปหาอย่างที่เขาเคยทำและเขาก็ไม่ได้ไปหาผมที่บาร์โฮสต์เหมือนอย่างที่เขาเคยไป
            เขาทำเหมือนว่าผมไม่มีตัวตน รวมไปถึงไอรีนที่หายตัวไปเช่นกัน
            เธอเองก็ไม่ได้ไปที่บาร์โฮสต์เหมือนอย่างเคย ตอนแรกผมคิดว่าเราอาจจะไม่เห็นกันแต่เมื่อผมไปถามหาความจริงจากพี่ลู่หานและพนักงานคนอื่นเขาก็ให้คำตอบเช่นเดียวกันคือไม่มีใครเห็นว่าเธอมาที่บาร์อีกเลยนับตั้งแต่คืนนั้น มันเป็นเรื่องที่สร้างคำถามได้มากมาย อาจารย์ชานยอลเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่เขาไปเจอผมอยู่กับไอรีน และไอรีนก็หายไปนับตั้งแต่วันนั้นด้วยเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะถามหาคำตอบอะไรจากใครได้เลยแม้แต่คนเดียว คงมีเพียงแต่อาจารย์ชานยอลเท่านั้นที่จะให้คำตอบกับผมได้ดีที่สุด
            ผมเดินดุ่มๆ ตรงทางเดินโดยมีจุดมุ่งหมายคือห้องพักครูที่อยู่ชั้นสองของตึกคณะ ตอนนี้เป็นเวลาเดียวกันกับที่อาจารย์ชานยอลเคยนัดให้ผมไปหาเขาหลังเลิกคลาสซึ่งภายในห้องไม่มีใครเลยนอกจากเขากับผม
            ครั้งนี้ผมก็ภาวนาให้เป็นเช่นนั้นอีก แล้วก็ขอให้เขาไม่หนีผมกลับไปเสียก่อน
            ผมสูดหายใจลึกและนานเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องพักครู จู่ๆ หัวใจของผมก็เต้นแรงขึ้นมาดื้อๆ เมื่อนึกถึงเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหลังโต๊ะที่เขาใช้ทำงานนั่น นึกถึงดวงตาคู่คมที่ใช้จับจ้องผมอยู่เสมอเหมือนอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา นึกถึงจูบของเขาที่มอบให้ในตอนที่เขาอุ้มผมขึ้นนั่งบนโต๊ะแล้วแทรกตัวเข้ามาที่หว่างขาของผม...
            ประตูด้านหน้าถูกเปิดออกทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรกับมัน ผมสะดุ้งเมื่อภาพตรงหน้าปรากฎร่างของใครบางคน โดยที่ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมองผมก็ได้กลิ่นตัวแสนคุ้นเคย และเจ้าของของมันก็คือคนที่ผมตั้งใจมาหาในวันนี้ ผมเงยหน้าขึ้นและดูเหมือนว่าเขาเองก็กำลังมองผมอยู่ก่อนแล้วทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ
            อาจารย์...
            ...
            ผมเรียก และหวังให้เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหบทุ้มของเขา แต่อาจารย์ชานยอลกลับนิ่งเงียบ นัยน์ตาของเขาราบเรียบไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้นจนน่าประหลาด เขาหลบหลีกไปอีกทางและกำลังจะเดินสวนออกไป ทำเหมือนว่าผมไม่มีตัวตนสำหรับเขา ทำเหมือนว่าตอนนี้ไม่ได้มีผมยืนอยู่ตรงหน้าในตอนนี้
            ไวกว่าความคิด ผมขยับตัวไปขวางหน้าเอาไว้ก่อนที่ขายาวๆ จะก้าวพ้นขอบประตูออกไป อาจารย์จะไปไหนครับ !?”
            ...
            อาจารย์ตั้งใจจะหลบหน้าผมไปถึงเมื่อไหร่ ?”
            เสียงของผมสั่นเมื่อถามคำถามนี้ ผมรู้ดีว่าเขาตั้งใจที่จะไม่คุย ไม่มองผมเหมือนอย่างเคย มันผิดวิสัยจากที่เขาเคยทำมาตลอดทำไมผมจะไม่รู้... แต่อาจารย์ชานยอลกลับไม่ตอบคำถามอะไรเลย เขาเลือกที่จะยกแขนขึ้นดูนาฬิกาที่ใส่มาในวันนี้เหมือนว่าต้องการให้ผมรับรู้ว่าผมกำลังจะทำให้เขาไปทำธุระสาย
            ผมบอกไม่ถูกว่าตัวเองต้องรู้สึกยังไง แต่ที่แน่ๆ คือเขากำลังจงใจจะทำให้ผมคิดว่าเขากำลังรำคาญที่มายืนขวางทางเอาไว้แบบนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมก็ไม่ชอบให้ใครมาเมินใส่หรือต้องง้อใครมากมายนัก... ผมจึงหลีกทางให้กับเขา...
            ผมไม่คาดหวังให้เขาเดินเข้ามากอดหรือว่าดึงให้ผมเดินตามเขาไปพลอดรักกันเหมือนอย่างในนิยาย...
            ไม่... ผมไม่ได้คาดหวังอย่างนั้น ผมแค่อยากสัมผัสเขา
            แค่นิ้วก้อยของผมได้เกี่ยวนิ้วของเขาเอาไว้เพียงเสี้ยววินาทีที่เขากำลังจะเดินผ่านไป... แค่นั้นแหละ ผมพอใจแล้ว...
            จิตใจของผมวูบโหวงเมื่อเขาเดินออกไปเหมือนไม่สามารถรับรู้ได้ถึงสัมผัสเล็กๆ ที่ผมจงใจทำเมื่อสักครู่นี้
            บางทีเขาอาจจะไม่ต้องการผมอีกแล้ว แต่ด้วยเหตุผลอะไรนั่นคือสิ่งที่ผมสงสัย...
            สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจมาเสมอนั่นคือเขาไม่ได้ทำเพราะเพียงต้องการระบายความใคร่ เขาไม่ได้ตั้งใจมาในสถานะผู้บริโภคตั้งแต่แรก แต่เขาตั้งใจมาหา... ผมไม่รู้ว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าผมทำงานอยู่ที่นั่น แต่ที่แน่ๆ คือเขาต้องการจะมาเจอผมแล้วเลือกให้ผมอยู่กับเขาในคืนนั้น แล้วเพราะอะไรกัน... ทำไมตอนนี้อาจารย์ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้
            ผมหลับตาลงพบเจอกับความมืด พอๆ กับคำตอบที่ผมพยายามค้นหาให้กับตัวเอง อาจารย์ชานยอลอาจจะรับไม่ได้ที่เห็นผมทำงานในคืนนั้นคืนที่ผมอยู่กับไอรีน เขาอาจจะตระหนักขึ้นมาได้ว่างานที่ผมทำมันไม่ต่างอะไรจากการเป็นโสเภณีเท่าไหร่นัก
            ใช่แล้วล่ะ... ผมก็แค่คนที่ขายศักดิ์ศรีแลกกับเงิน แม้ผมจะพยายามบอกกับตัวเองมาเสมอว่าต่อให้เรารักศักดิ์ศรีแล้วถนอมมันมากแค่ไหนสุดท้ายเมื่อเราตายไปก็ไม่มีใครจดจำหรือมาเชิดชูเราในฐานะที่สูงส่ง แต่แล้วยก็ต้องมาแพ้ให้กับเรื่องของความรู้สึกมากกว่าอยู่ดี...
            เหมือนกับที่ผมชอบเซฮุนมากๆ และไม่สามารถสานต่อความสัมพันธ์ใดๆ ได้เพราะหน้าที่ที่เราต้องทำ
            แล้วก็ได้แค่รู้สึกรักเพื่อต้อนรับความเสียใจที่จะตามมาทีหลัง...

                       
            คุณไม่ควรยืนอยู่ตรงนี้เลยแบคฮยอน
          ...
            ผมหันไปหาเขา... คนที่เพิ่งจะเดินผ่านผมไปเมื่อสักครู่นี้
            ผมไม่รู้ว่าเขาหยุดเดินตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเป็นตอนที่ผมกำลังหลับตาลงแล้วมองเห็นความเป็นจริงที่ผมควรต้องทำใจยอมรับ แต่ที่รู้ๆ คือตอนนี้เขากลับมายืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้งและกำลังก้าวเท้าเข้ามาหา
            เขาคลายปมเนคไทค์ออกแล้วปลดกระดุมเม็ดเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดก่อนที่เขาจะก้าวมาระยะประชิดตัวแล้วจับมือผมไว้
            ผมพยายามจะปล่อยคุณไปแล้ว...
            ...
            แต่คุณกลับดั้นด้นที่จะเข้าหาผมอีก
            อะ... อาจารย์...ผมเรียกเขาเสียงเบาเมื่อเขาออกแรงกระชากเข้าหาจนร่างทั้งร่างเซถลาไปหาเขา
            คุณหมดโอกาสนั้นไปแล้วเด็กดื้อ
            ...
            ผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหนอีกแล้ว




#เรื่องนี้ผมสอน



            อาจารย์... อือ...
            ผมครวญในลำคอเมื่อตัวถูกอุ้มขึ้นแล้ววางลงบนโต๊ะรับประทานที่อยู่กลางห้องในคอนโดของอาจารย์ชานยอล เขาใจร้อนมากเกินกว่าที่จะให้การเดินทางมาที่นี่เป็นไปอย่างสงบ ตลอดทางเขาเอาแต่กอบโกยสิ่งที่เขาถวิลหามาทั้งสองอาทิตย์จนริมฝีปากของผมคงจะบวมเจ่อเล็กน้อย และเมื่อถึงห้องเขาก็เลือกที่จะกระชากเสื้อเชิ้ตนักศึกษาของผมจนขาดวิ่นแล้วดันร่างของผมเข้ามาจนถึงตรงนี้ และมือของเขาก็กำลังวุ่นวายกับเข็มขัดหนังแบรนด์ดังเพื่อจะกำจัดอุปสรรคในการถอดกางเกงออกไป
            เสียงลมหายใจปะปนกับเสียงแหบครางทุ้มในลำคอเมื่อผมดันลิ้นของเขากลับแล้วสอดลิ้นตัวเองเข้าไปในปากเขาแทนแล้วเสนอตัวเป็นผู้ช่วยในการปลดตะขอกางเกงของเขาออกไปด้วย เราต่อสู้กันทางปากจนสิ่งเกะกะที่เขาสวมเอาไว้หล่นไปกองที่ข้อเท้าเขาจึงถอนจูบออกไป
            เด็กดี... เอามันเข้าไปในปากของคุณสิ...
            เขาว่าพลางอุ้มผมลงจากโต๊ะ ผมดูเหมือนเด็กน้อยตัวเบาโหวงที่เขาสามารถอุ้มลงมาได้อย่างง่ายดายก่อนที่ผมจะคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วใช้มือประคองส่วนแข็งขืนนั่นเอาไว้ มือเรียวสวยที่ใครต่อใครต่างก็บอกว่าราวกับมือของหญิงสาวถูกใช้ชักรูดเบาๆ ตั้งแต่โคนขึ้นมาจนสุดความยาวและริมฝีปากก็ครอบลงบนส่วนหัวที่มีหยาดน้ำสีใสปริ่มออกมาต้อนรับ เสียงสูดปากดังขึ้นเมื่อปลายลิ้นผมเกี่ยวกระหวัดเข้ากับส่วนอ่อนไหวแล้วละเลงมันอย่างเอาอกเอาใจ
            อา... แบบนั้นแหละ...
            มือหนาวางลงบนศีรษะเมื่อนักศึกษาบยอนแบคฮยอนสามารถทำให้เขาถูกใจได้ ผมจำประสบการณ์การใช้ปากมาจากสาวๆ ที่มาใช้บริการทั้งสิ้นเพราะผมไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายเลยสักครั้ง เธอมักจะเอาใจผมเป็นอย่างดีเนื่องจากว่าผมเป็นโฮสต์ที่มีความสามารถในการทำตัวน่ารักใส่จนเรียกรอยยิ้มได้ไม่หยุด
            และนั่นทำให้ผมรู้ดีว่าเมื่อสิ่งแฉะชื้นสัมผัสกับส่วนหัวมันจะรู้สึกดีมากขนาดไหน
            อาจารย์ใช้มือทั้งสองข้างประคองศีรษะของผมเอาไว้ไม่ให้ขยับได้ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายที่ขยับสะโพกเสียเอง ให้ผมได้ทำหน้าที่เพียงแค่ใช้ลิ้นบำเรอกามให้กับเขาเท่านั้น
            ผมชิมรสชาติของอาจารย์ที่สวนเข้าออกอยู่ในปาก เขาเข้ามาจนเกือบจะถึงช่วงลำคอคอและดึงออกไปเกือบหลุดจากปากจนบางทีผมก็ได้ยินเสียงเฉอะแฉะดังมาบ้าง
            เด็กดี... อา... เด็กดีของผม...
            เขาพร่ำรำพันเมื่อเร่งความถี่รัวมากขึ้น ผมอดไม่ได้ที่จะซ้อนตาขึ้นมองใบหน้าของเขา ผมอยากเห็นใบหน้าของอาจารย์ยามที่สุขสมเกินทน แต่แล้วเขาก็หยุดการกระทำของตนเองแทบจะทันทีที่สบตากันเมื่อเขาเองก็ก้มมองมาก่อนอยู่แล้ว...
            อ๊ะ! อาจารย์จะทำอะ... อย่านะครับ!” ผมดิ้นสุดแรงเพื่อปฏิเสธสิ่งที่เขากำลังจะทำเมื่อถูกดึงให้ลุกขึ้นยืน จัดการถอดกางเกงให้จนเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าและโดนอุ้มให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะอย่างเดิมอีกครั้งต่างกันที่อาจารย์จับขาทั้งสองข้างของผมให้ชันขึ้นแล้วถ่างมันออกจากกันส่วนเขาก็คุกเข่าลงกับพื้นจนใบหน้าอยู่ในระดับที่สายตาของเขาจะมองเห็นส่วนนั้นได้อย่างชัดเจน
            อะ...
            เสียงของผมติดขัดเช่นเดียวกับจังหวะการหายใจที่ขาดห้วงเมื่อลิ้นร้อนแตะลงบนเรียวขาช่วงบน ปลายลิ้นลากยาวขึ้นมาจนเกือบจะถึงช่องทางด้านหลัง ผมพยายามจะหนีบขาเข้าด้วยความขลาดอาย มันเป็นส่วนที่สกปรกผมไม่อยากให้เขาต้องทำอย่างนั้นให้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เห็นใจเมื่อเขาจับขาผมแยกออกจากกันอีกครั้งแล้วบดขยี้ต่อมความรู้สึกของผมด้วยลิ้นของเขา
            อ๊า !”
            เรือนร่างแอ่นโค้งเมื่อลิ้นร้อนพยายามสอดแทรกเข้าไปในความคับแคบ ความเปียกชื้นส่งผลให้มันเข้าไปได้และอาจารย์ก็ไม่รอช้าที่จะทรมานผมอย่างไม่ปราณีด้วยการใช้มือข้างหนึ่งชักรูดส่วนอ่อนไหวของผมที่มันแข็งชันตามความต้องการและสอดลิ้นเข้าออกอยู่อย่างนั้น อาจารย์ชานยอลปรนเปรออย่างถึงอกถึงใจจนผมแทบจะกรีดร้อง
            อะ... อาจารย์ ผม... ผม...
            ร่างกายของผมเกร็งไปหมดรวมไปถึงปลายเท้าที่หงิกงอ ผมกำลังจะสุขสมในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แน่ๆ
            ถ้าหากว่าเขาไม่ปล่อยมือแล้วลุกขึ้นยืนเสียก่อน...
            ผมไม่ยอมให้คุณเสร็จก่อนหรอก
            อาจารย์! อะ... อ๊ะ...!”
            นิ้วยาวแทรกเข้ามา... เขาพยายามช่วยให้ผมสามารถรองรับความใหญ่โตของเขาได้โดยการใช้นิ้วช่วยเปิดทางให้ก่อน เขาใช้น้ำลายที่เปียกแฉะก่อนหน้านี้แทนเจลหล่อลื่นที่เขาไม่ได้ซื้อมันติดมาด้วยเหมือนอย่างที่เคยบอกเอาไว้ และเพียงไม่กี่นาทีเขาก็ดึงมือกลับไปเพื่อประคองส่วนนั้นมาจ่อที่ช่องทางแล้วค่อยๆ ดันมันเข้ามาในตัวของผม
            เพียงแค่ส่วนหัวก็ถึงกับทำให้ผมหน้าเหยเก มันเจ็บมากจริงๆ จนน้ำตาไหล ผมไม่ได้สัมผัสถึงคำที่เคยได้ยินว่าครั้งแรกมักจะเจ็บเสมอ แต่เมื่อมีครั้งต่อไปคุณจะชิน... เพราะความจริงแล้วผมพบว่ามันจะเจ็บทุกครั้งนั่นแหละ...
            เขาสูดปากดังซี้ดเมื่อผ่านพ้นส่วนหัวเข้ามาได้และกำลังจะแทรกตัวเข้ามาให้ลึกกว่านี้แต่เขาคงเห็นใจผมถึงได้ยื่นมือมาเช็ดน้ำตาที่ไหลมาอาบแก้มให้
            เจ็บงั้นเหรอ ?”
            อาจารย์ก็ลองให้ผมทำดูสิ...
            เถียงได้แบบนี้แสดงว่าไม่เจ็บสินะ
            เขายิ้มมุมปากแบบที่ทำให้ผมใจเต้นทุกครั้งที่เห็น เขามักจะทำสายตาแพรวพราวอย่างชายมากรักจนน่าหยิกด้วยความหมั่นเขี้ยว... เขามันนักรักตัวร้ายจนผมอยากจะกัดแรงๆ สักทีเพราะความหมั่นไส้ล้วนๆ
            เขาซ้อนตัวด้านบนผมขึ้นมาเพื่อให้มารับจูบแสนเอาแต่ใจของเขา เขาบังคับให้ผมสอดลิ้นเข้าไปในปากด้วยการดูดมันแรงๆ เขาชอบนักชอบหนากับการให้ผมได้เข้าเป็นนักกีฬาในพื้นที่ของเขาหลังจากนั้นก็เล่นงานอย่างหนักจนเหนื่อยแทบหอบกลับมาทุกครั้ง ลิ้นของเขามันร้ายกาจ... มันแทบจะกระชากวิญญาณทุกครั้งที่มันเริ่มเข้ามาซุกซนที่ปากและตามร่างกายของผม
            สะโพกหนั่นกระแทกเข้ามาไม่หยุดถึงแม้ว่าเขากำลังสนุกกับการแย่งลมหายใจของผมไปด้วยก็ตามที เสียงหยาบโลนที่เกิดจากช่วงล่างกระทบกันดังก้องไปทั่วทั้งห้องแต่ถึงอย่างนั้นเสียงหนึ่งที่ดังฟังชัดที่สุดก็ยังคงเป็นเสียงครางของเรา... เรื่องประหลาดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นนั่นคือการที่ได้ยินเสียงครางของเขาผมก็ยิ่งอยากเอาชนะ
            ฮ่ะ...อาจารย์ชานยอลหัวเราะเบาๆ เมื่อขาเรียวทั้งสองเกี่ยวรอบเอวแล้วแขนก็โอบรอบคอเอาไว้แน่น เขารู้ดีโดยที่ไม่ต้องให้ผมบอกอะไรเลย...
            เขาซ้อนสะโพกผมขึ้นด้วยมือจนร่างทั้งร่างลอยขึ้นเหนือโต๊ะ เขาเดินไปทางโซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเราทั้งคู่ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวนั่งลงไปโดยมีผมนั่งอยู่บนตัวของเขาอีกที ผมไม่รอช้าที่จะจูบเขาอีก เป็นฝ่ายสอดแทรกลิ้นแสนซุกซนของตนเข้าไปในปากเขาเองแล้วดึงมือของตัวเองกลับมาใช้ในการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแสนเกะกะที่เขาสวมใส่ออกไปเสียให้พ้นทาง
            ร่างกายของเราเปลือยเปล่าเสมอภาค อาจารย์ชานยอลใช้มือที่ยังอยู่บนสะโพกของผมประคองมันไว้เพื่อให้ร่างผมยกขึ้นแล้วกดมันลงอีกครั้ง... ความแข็งชันของเขาทำให้ผมแทบจะสำลักเมื่อมันเข้าไปลึกมากกว่าเดิมในท่าทางนี้
            แฮ่ก... อาจารย์...
            เด็กดี...
            ริมฝีปากผมไล้ลงบนแผงอกกว้างแลบลิ้นเลียจุดป้านน้ำตาลเข้มแล้วดูดดุลเพื่อเอาใจเขาบ้าง เขาจึงลูบศีรษะผมเป็นรางวัล เดิมทีเขาพยายามอ่อนโยนกับผมเพราะรู้ตัวเองดีว่าขนาดของเขามันคับแน่นขนาดไหนและมันยาวเกินกว่าที่ผมจะรองรับมันได้ทั้งหมด แต่เมื่อถึงจุดจุดหนึ่งสติชัมปชัญญะที่เขาเคยควบคุมได้อาจจะแตกสลาย
            เมื่อผมที่เป็นฝ่ายขึ้นเขาค่อยๆ เคลื่อนตัวด้วยทำนองเชื่องช้า เขาคงขัดใจนักถึงได้ผลักผมลงนอนกับโซฟาแล้วคว้าเสื้อเชิ้ตที่ผมเพิ่งจะถอดออกไปกลับมาอีกครั้ง
            อ๊ะ! อาจารย์จะทำอะไร... ผมร้องถามเสียงดังเมื่อข้อมือของตัวเองถูกรวบมัดรวมกันไว้ทั้งสองข้าง
            อย่าขัดใจผม
            เขาพูดแค่นั้นและกระชากปมที่เขามัดไว้ให้มันแน่นหนาเพื่อจะมั่นใจได้ว่าผมจะไม่ทำมันคลายออกจากกัน เขาจับตัวผมให้พลิกคว่ำแล้วประคองสะโพกของผมให้ลอยเด่นขึ้น
            คุณ... เป็นของผม...
            อ๊ะ...!”
            เขาเลื่อนหน้าเข้ามาที่บั้นท้ายจนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดก่อนที่ลิ้นร้อนจะบรรเลงความสุขให้กับผมอีกครั้งจนผมครางเสียงสั่น ลิ้นของเขากำลังจะทำให้ผมขาดอากาศหายใจ ความเปียกแฉะที่เขาสร้างให้มันกำลังทำให้ผมอยากจะตะโกนร้องขอให้เขาเข้ามาในร่างกายของผมเสียทีก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว
            เด็กดี... เขาพูดเสียงเบาแล้วหยัดตัวขึ้น สอดก้านนิ้วยาวเข้ามาแล้วควานหาบางสิ่งจากผม
            อะ... อาจารย์... อึก...
            หืม... คุณเรียกผมทำไมกัน ?”
            เห็นมั้ย... เขามันร้ายนัก        
          อ๊า! อ๊ะ...!”
            อ่อ ตรงนี้สินะ
            ผมได้ยินเสียงเขาพูดแค่นั้นก่อนที่เขาจะชักนิ้วออกไปแล้วสอดแทรกดุ้นเนื้อร้อนเข้ามา มันคับแน่นจนผมอยากจะกรี๊ด มันเข้ามาจนสุดในรวดเดียวจนผมน้ำตาไหลเพราะความซ่านเสียวและเขาก็ไม่ใจดีพอจะรอให้ผมได้ปรับตัวกับความใหญ่โตของเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียว
            เขาเย่ออย่างแรงจนผมหัวสั่นหัวคลอน ส่วนหัวของมันกระทบเข้ากับจุดเสียวของผมอย่างพอดิบพอดี... มันเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่เขาใช้นิ้วควานหาจนเจอแล้วเปลี่ยนมาใช้อย่างอื่นในการกระแทกมันแทน
            คุณชอบมั้ย หืม ?”
            อะ... อะ...
            บอกผมสิว่าคุณชอบมัน...เขากล่าวกระซิบ ริมฝีปากติดหูจนผมขนลุก บอกสิว่าคุณเสียวขนาดไหน...
            อาจารย์ อึก...
            ผมจิกเล็บเข้ากับมือตัวเองเมื่อมันไม่สามารถจิกหมอนที่ใช้รองอยู่ได้ มือของผมถูกรัดแน่นเกินกว่าจะดิ้นหลุดแล้วหาที่ระบายความเสียวซ่านนี่ออกไป
            ราวกับว่าผมกำลังถูกกักขัง แต่แปลกนักที่ผมกลับรู้สึกได้ถึงความสะอกสะใจที่ไม่สามารถดิ้นรนอะไรได้เลย
            เขากระแทกเข้ามาอย่างสุดแรงจนตัวผมแทบจะไถล แต่เพราะมือที่เขาบีบคั้นเอวบางเอาไว้ทำให้ไปไหนไม่ได้ เขาสวนเข้าออกถี่ยิบจนได้ยินเสียงสะโพกกระทบกับหน้าขาของเขาเสียงดังพอๆ กับเสียงครางของผมในตอนนี้
            ยิ่งนานเข้าจังหวะเขายิ่งถี่กระชั้น มันรัวเร็วจนผมปากคอสั่น เสียงหอบประสานเสียงคราง... กลิ่นเหงื่อของเขายิ่งทำให้บางสิ่งในร่างกายพลุกพล่านมากยิ่งขึ้น
            ความต้องการของผมมาจ่อที่ปลายทางออกเสียงครวญก็ยิ่งดังขึ้น ผมหันไปหาเขา เห็นใบหน้าคมคายชื้นเหงื่อของเขาและสายตาที่สอดประสานกัน ผมอ้อนวอนขอเขาทางสายตา
            ได้โปรด... อีกนิดเดียวเท่านั้น...
            แบคฮยอน... อา...
            อาจารย์... อาจารย์... อ๊า!”
            ผมแผดเสียงและทิ้งตัวลงอย่างหมดเรี่ยวแรงส่วนอาจารย์ชานยอลก็ทิ้งตัวลงนอนทับอยู่บนร่างกายของผมอีกที ถึงแม้เนื้อตัวของเราจะเปียกชื้นด้วยเหงื่อแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร มันเป็นความรู้สึกดีที่ทุกครั้งหลังจากร่วมรักแล้วได้มาใช้เวลาที่แสนเหนอะหนะแบบนี้ร่วมกันสักพักหนึ่งแล้วค่อยแยกย้ายกันไปอาบน้ำ
          สำหรับผมผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีชะมัด...






          กลับไปอ่านต่อที่เว็บจ้า ยังไม่จบนะ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1800748&chapter=10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น